|
VIEW : 3,449
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลท่านถือกำเนิดในตระกูลที่มีฐานะดีในหมู่บ้านนาเชือก ซึ่งอพยพมาจากจังหวัดอุบลราชธานี มีฝูงวัวมากกว่า ๓๐ ตัว มีที่นากว่า ๖๐ ไร่ มารดาเลี้ยงหม่อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะมั่นคงที่สุดในแถบนั้น เมื่อท่านเป็นฆราวาส ท่านมีความขยันหมั่นเพียร และความอุตสาหะ ท่านช่วยโยมบิดามารดาทำงานทุกอย่าง ท่านได้สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่โรงเรียนวัดบ้านนาเชือกเหนือ ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่๒ท่านก็ได้รับการคัดเลือกให้เป็นทหารอาสาเพื่อไปร่วมรบในสงคราม และท่านได้เข้ารับการฝึกซ้อมรบ ภายหลังก่อนที่ท่านจะไปในสงครามจริง ๆ สงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็ได้ยุติลงก่อนในปี พ.ศ. ๒๔๘๘ ครั้งนึงท่านชอบการต่อยมวยมาก ท่านชอบไปต่อยมวยตามงานวัดต่าง ๆ ในเวลาว่างจากการทำนาและงานอื่น แต่โยมบิดาของท่านไม่ชอบที่ท่านเป็นนักมวยนัก พอช่วงอายุประมาณ ๒๐ ปี คุณยายของท่านก็ได้ปรารภกับท่านว่าอยากจะให้ท่านบวชให้คุณยายของท่านหน่อย อันเป็นที่มาของการออกบวชภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ในบวรพระพุทธศาสนา
อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่ออายุย่างเข้า ๒๑ ปี ที่สิมน้ำ (อุทกุกเขปสีมา) ณ วัดสว่างนิวรณ์นาแก ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมี หลวงปู่ลือ เป็นพระอุปัชฌาย์ สังกัดมหานิกาย เมื่อท่านบวชแล้วก็มาอยู่ที่วัดนาเชือกใต้ (วัดสุวรรณชัยศรี ปัจจุบัน) ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ในปี พ.ศ. ๒๔๘๙ ขณะนั้นที่นั่นการปกครองในคณะสงฆ์ยังไม่ทั่วถึงมากนัก การบวชของคณะธรรมยุติกนิกายและคณะมหานิกายยังไม่มีการแยกจากกัน ยังคงใช้พระอุปัชฌาย์องค์เดียวกัน
ในปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ทางคณะสงฆ์ได้ประกาศว่า พระอุปัชฌาย์สังกัดนิกายอะไรผู้บวชก็ต้องสังกัดนิกายนั้น พระครูประสิทธิ์สมณญาณ จนฺโทปโม (หลวงปู่โสม) เจ้าอาวาสวัดสุวรรณชัยศรี (ศิษย์อุปัฏฐากหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต สมัยท่านจำพรรษาอยู่แถบจังหวัดเชียงใหม่) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่านจึงได้ขึ้นไปอบรมการเป็นพระอุปัชฌาย์ของคณะธรรมยุติกนิกาย
ต่อมาเมื่อท่านอายุ ๒๒ ปี ทำทัฬหีกรรมเป็นพระภิกษุสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย ที่สิมน้ำ (อุทกุกเขปสีมา) ณ วัดบ้านหนองโจด (ปัจจุบันเป็นที่นาชาวบ้าน) ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อ วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๐ เวลา ๑๓.๐๐ น. โดยมี พระครูประสิทธิ์สมณญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูปลัดอ่อน ขนฺติโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระทองสุข เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีฉายา ว่า “สุภโร” แปลว่า “ผู้เลี้ยงง่าย”
พ.ศ. ๒๔๙๘ | เป็น เจ้าอาวาสวัดสักกะวัน |
พ.ศ. ๒๔๙๘ | เป็น เจ้าคณะตำบล (ธ) ตำบลโนนศิลา อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ |
พ.ศ. ๒๕๐๒ | เป็น เจ้าคณะอำเภอ (ธ) ปกครอง ๓ อำเภอ ได้แก่ อำเภอสหัสขันธ์ อำเภอกุฉินารายณ์ และอำเภอท่าคันโท |
พ.ศ. ๒๕๓๙ | เป็น รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) |
พ.ศ. ๒๕๔๕ | เป็น ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) [1] |
ครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม ชั้น เอก โท ตรี | |
กรรมการตรวจธรรมสนามหลวงในคณะธรรมยุติภาคอีสาน | |
พระเทพมงคลวชิรมุนี วิ. (หา สุภโร) มรณภาพ เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ เวลา ๑๗.๕๒ น. ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพฯ สิริอายุ ๙๘ ปี พรรษา ๗๘
พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็น
พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอ ชั้นพิเศษ
ที่ พระครูวิจิตรสหัสคุณ
|
พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็น
พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะจังหวัด
ในราชทินนามเดิม
|
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็น
พระราชาคณะชั้นสามัญยก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
ที่ พระญาณวิสาลเถร
[2]
|
๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็น
พระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
ที่ พระเทพมงคลวชิรมุนี ภาวนาวิธีวราจารย์ ไพศาลศาสนกิจจาทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
[3]
|
1. มติมหาเถรสมาคม เรื่อง เสนอขอแต่งตั้งพระสังฆาธิการเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) |
2. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๑๑๕, ตอนที่ ๒๔ ข, ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๑, หน้า ๗ |
3. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๑๓๘, ตอนที่ ๒๖ ข, ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔, หน้า ๒ |
พระราชาคณะภูมิลำเนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
ทำเนียบพระราชาคณะ ฉบับสมบูรณ์ พุทธศักราช ๒๕๕๙. ปทุมธานี : บริษัท สำนักพิมพ์ สื่อตะวัน จำกัด. หน้า ๑๖๑ |
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook