พระปทุมวรนายก (สอน พุทฺธิสาโร) | พระสังฆาธิการ

พระปทุมวรนายก (สอน พุทฺธิสาโร)


 
เกิด ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๔
อายุ ๘๑ ปี
อุปสมบท พ.ศ. ๒๔๔๕
พรรษา ๖๐
มรณภาพ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๔
วัด วัดเทียนถวาย
ท้องที่ ปทุมธานี
สังกัด มหานิกาย


VIEW : 1,158

เพิ่ม/แก้ไขข้อมูล

สถานะเดิม


     พระปทุมวรนายก มีนามเดิมว่า สอน ตินตะโมระ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๔ (วันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเส็ง จุลศักราช ๑๒๔๓) ที่บ้านใต้วัดสลักเหนือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี บิดาชื่อ เอี่ยม มารดาชื่อ หนู


การศึกษาเบื้องต้น

     เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๓๓ อายุได้ ๙ ปี เข้าเรียนหนังสือไทยที่สำนักพระอธิการชื่น วัดสลักเหนือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จนอ่านออกเขียนได้ในสมัยนั้น แล้วบรรพชาสามเณรเรียนอักขรสมัยและอบรมระเบียบศีลธรรมควบกันไป เมื่ออายุ ๑๔ ปี จึงได้ลาเพศจากสามเณรไปประกอบอาชีพทำสวน ทำนา ที่ตระกูลได้มอบให้ จนถึงอายุครบ ๒๐ ปี


อุปสมบท

      อุปสมบท เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๕ (อายุ ๒๑ ปี) ตรงกับวันพุธ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๕ เวลาเช้า ณ พัทธสีมาวัดสลักเหนือ โดยมี เจ้าอธิการบ๊อก วัดปากครองบางคูวัด อำเภอเมือง จังหวัดปทุม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูธัญญเขตเขมากร ( ช้าง ) วัดเทียนถวาย ( ภายหลังได้ย้ายไปอยู่ที่วัดเขียนเขต ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัด ธัญบุรี ) เป็นพระกรรมวาจารย์ พระครูสิทธิเดชะ ( แสง ) วัดชนะสงคราม พระนคร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนาม ฉายาว่า พุทฺธณาโณ (ภายหลัง เจ้าพระคุณสมเด็จวันรัต (เฮง เขมจารีเถระ) วัดมหาธาตุ ได้กรุณาเปลี่ยนใหม่ว่า พุทฺธิสาโร) เมื่ออุปสมบทแล้วได้มาอยู่วัดเทียนถวาย จังหวัดปทุมธานี จนตลอดชนมายุ

     เหตุที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระวันรัต ได้เปลี่ยนนามฉายาใหม่ ในสมัยที่เจ้าคุณท่านดำรง สมณศักดิ์ เป็นพระพิมลธรรม เจ้าคณะมณฑลอยุธยา สมัยนั้นเจ้าคุณหลวงพ่อปทุมวรนายก ดำรงค์ สมณศักดิ์เป็นพระครุศีลานุโลมคุณ รองเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้ติดต่อสัมพันธ์กับเจ้าคุณสมเด็จเขมจารมหาเถระอย่างสนิทสนมฐานผู้ใต้บังคับบัญชา บางครั้งก็ได้ติดตามร่วมไปในงานตรวจการคณะสงฆ์มณฑลอยุธยาด้วย จึงเป็นที่รักใคร่สนิทสนมตั้งแต่นั้นมา ประกอบด้วยพระคุณท่านทั้งสองเป็นสหชาติ เกิดร่วมปีเดียวกันและได้รับพรพีเศษจากเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เรียกคำแทนว่า “สหาย” และอนุญาตให้เข้าหาถึงห้องพักได้ทุกโอกาสโดยไม่จำกัดเวลา โดยเหตุที่ท่านมีการศึกษาดีและมีการประพฤติปฏิบัติดี นับเป็นสาระของชีวิตและหมู่คณะได้เป็นอย่างดี จึงได้รับเปลี่ยนฉายาให้ต้องตามความรู้และความประพฤติปฏิบัติ


บาลี

     เบื้องต้นได้ศึกษาคัมภีร์มูลกัจจายนะ อันว่าด้วยบาลีไวยากรณ์อย่างเก่าแล้วเรียนคัมภีร์พระธัมมปทัฏฐกถาและคัมภีร์มังคลัตถทีปนีตามลำดับจนสามารถแปลภาษาบาลีได้ ในสำนักท่านพระครูศีลานุโลมคุณ (สว่าง) วัดเทียนถวาย ซึ่งภายหลังท่านได้ดำรงตำแหน่งสมณศักดิ์เป็นที่พระธรรมานุสารี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี

ตำแหน่ง

ฝ่ายปกครอง

พ.ศ. ๒๔๕๐  เป็น พระกรรมวาจารย์
พ.ศ. ๒๔๗๘ - ๒๕๐๔  เป็น เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี
พ.ศ. ๒๔๙๖ - ๒๕๐๔  เป็น เจ้าอาวาสวัดเทียนถวาย

ฝ่ายการศึกษา

พ.ศ. ๒๔๕๐  เป็น ครูช่วยบริหารงานทั้งฝ่ายปริยัติสอนคัมภีร์มูลกัจจายนะ ฯลฯ และฝ่ายบริหาร
พ.ศ. ๒๔๕๗  เป็น ครูสอนปริยัติแผนใหม่ แผนธรรมวินัย ซึ่งเริ่มตั้งขึ้นครั้งแรกในส่วนภูมิภาค
พ.ศ. ๒๔๖๔  เป็น ผู้ควบคุมการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนใหม่และช่วยเหลือบริหารงานพระศาสนา ในหน้าที่ของเจ้าคณะเป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามมณฑลอยุธยา

มรณกาล


     เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๒ เริ่มอาพาธเกี่ยวกับประสาท ครั้งแรกท่านว่าราชการจังหวัดปทุมธานีได้นำแพทย์สุขศาลามาตรวจ แพทย์บอกว่าเป็นโรคเส้นประสาทเพราะใช้สมองมาก เมื่อทำการรักษาพยาบาลกันเต็มความสามารถแล้วอาการโรคก็หายแต่อาการหูรู้สึกอื้อขึ้น

     เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๓ โรคประสาทกลับกำเริบขึ้น ตอนนี้คณะนางพยาบาลศิริราชได้พาหมอสนองมาตรวจและถวายยารักษาอาการแล้วอาการก็บรรเทาลงแต่ประสาทหูตึงมากขึ้นฟังอะไรไม่ได้ยิน

     พ.ศ. ๒๔๙๔ อาการโรคกำเริบขึ้นอีก ได้มาอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช ครั้งละนานๆเป็นเวลาถึง ๓ ครั้ง จากนั้นก็ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์ ๔ ครั้ง ครั้งสุดท้ายเมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้เกิดอาพาธหนัก สลบไปเป็นเวลา ๓ ชั่วโมง ทางคณะศิษย์วัดเทียนถวายได้แจ้งมายังโรงพยาบาลสงฆ์ให้ส่งคณะแพทย์และรถไปรับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์คณะแพทย์ได้ประชุมกันรักษาจนเต็มความสามารถ อาการมีแต่ทรงกับทรุด มีอาการอ่อนเพลียมากขึ้นโดยลำดับ

     จนถึง วันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๔ เวลา ๑๗.๐๔ น. ท่านได้ถึงมรณภาพด้วยอาการอักสงบ ที่ตึกพิเศษโรงพยาบาลสงฆ์ คำนวณ อายุได้ ๘๑ ปี

สมณศักดิ์


๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๖ เป็น พระสมุห์ ฐานานุกรมใน พระครูศีลานโลมคุณ
พ.ศ. ๒๔๖๐ เป็น พระปลัด ฐานานุกรมใน พระธรรมานุสารี
๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๐ เป็น พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะจังหวัด ที่ พระครูศีลานุโลมคุณ
๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๖ เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะจังหวัด ที่ พระครูปทุมวรนายก วินัยสาธกธรรมวาที สังฆวาหะ
๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระปทุมวรนายก วินัยสาธกธรรมวาที สังฆปาโมกข์

ที่มา


ทำเนียบอดีตพระราชาคณะภาคกลาง
บัวทองพระเครื่อง


แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com

www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่

พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook