|
VIEW : 1,618
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลปี พ.ศ. ๒๔๘๔ อายุถึงเกณฑ์ต้องเข้าเรียน ได้เข้าเรียนโรียนเรียนเวียงสระ ซึ่งมีครูประสงค์ วรรณโชติ เป็นครูใหญ่ โรงเรียนเวียงสระอยู่ไกลจากบ้านทุ่งกรูดพอสมควร ไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนได้ จึงได้ย้ายไปพักอาศัยอยู่บ้านนางกิ้มพงศ์ ชัยสิทธิ์ มีศักดิ์เป็นอา เรียนอยู่ที่โรงเรียนเวียงสระได้ประมาณ ๑ ปี ได้ย้ายไปที่โรงเรียนบ้านหนองโสน โรงเรียนอยู่ห่างไกลประมาณ ๒ กิโลเมตร ปี พ.ศ. ๒๔๘๘ เรียนจบประถมปีที่ ๔ ที่โรงเรียนบ้านหนองโสน ใช้เวลาเรียน ป.๑-๔ เวลา ๔ ปี ทราบว่าเรียนหนังสือเก่งสอบได้ที่ ๑ บ่อยๆเกือบเป็นประจำเรียนหนังสือรุ่นเดียวกับครูอนงค์ นาคเดช เเย่งชิง ที่ ๑ กันมาตลอด การเดินทางไปมาจากโรงเรียนถึงบ้านลำบากตรากตรำามากเนื่องจากระหว่างทางเป็นป่า ดง มีสัตว์ร้ายนานาชนิด เช่น ช้างป่า เสือ หมี การเดินทางจึงเสี่ยงอันตรายพอสมควร อาหารการกินเเร้นเเค้นมากที่โรงเรียนต้องทำข้าวห่อไปกิน วันไหนไม่ได้นำข้าวห่อไปก็ไมมีอะไรกินต้องหาผลไม้ในป่าบริเวณโรงเรียนรับประทาน จนจบ ป.๔ มีความประสงค์จะเรียนต่ออย่างเเรงกล้า เเต่สมัยนั้นโรงเรียนมีน้อย การติดต่อสื่อสาร ไม่ดี จึงพลาดโอกาสที่จะได้เรียน อีกกับสุขภาพไม่ค่อยดีเป็นพื้นฐานในปลายปีนั้นเองมีโรคระบาดหนักอีกที ตำบลเวียงสระ มีคนล้มตายมาก จึงตัดสินใจไปอยูที่วัดบ้านส้อง กับท่านอา (พระครูอภัยเขตนิคม) เจ้าอาวาสวัดบ้านส้อง เเละเจ้าคณะอำเภอบ้านนาสาร เป็นการหลบภัยไข้ทรพิษ
ขณะที่อาศัยอยู่ที่วัดบ้านส้องกับท่านพระครูอภัยเขตนิคม ได้รับการชักชวนจากท่านให้บรรพชา ตัดสินใจอยู่หลายวันจึงตอบตกลง ขณะนั้นอายุ ๑๖ ปี พ.ศ. ๒๔๙๑ การบรรพชาหน้าไฟงานบำเพ็ญกุศลศพลุงจิวเก็บศพไว้นานจนเหลือเเต่กระดูก โดยมี พระครูอภัยเขตนิคม เป็นพระอุปัชฌาย์
ปี พ.ศ. ๒๔๙๑ ได้เข้าเรียนนักธรรม สอบได้นักธรรมชั้นตรี ปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ไปเรียนบาลีที่สำนักเรียน วัดโพธาราม ตำบาลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียนได้เพียง ๑ ปี ครูผู้สอน พระครูชยาภิวัฒย์ ล้มป่วยหนักสอนไม่ได้ จึงต้องหยุดเรียนเเละเดินทางกลับ วัดบ้านส้อง ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ไปเรียนบาลีต่อที่วัดคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ ณ พัทธสีมาวัดเวียงสระ โดยมีพระครูอภัยเขตนิคม เป็นพระอุปัชฌาย์
ตั้งเเต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๕-๒๔๙๙ เรียนบาลีอยู่ที่วัดคูหาสวรรค์ เนื่องจากสุขภาพไม่ไดี จึงจำพรรษาที่วัดคูหาสวรรค์บ้างวัดบ้างส้อง บ้าง
พ.ศ. ๒๔๙๙ สอบได้ เปรียญธรรม ๓ ประโยค สำนักเรียนวัดคูหาสวรรค์ |
พ.ศ. ๒๕๐๐ สอบได้ นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนวัดบ้านส้อง |
พ.ศ. ๒๕๐๙ | เป็น รักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านส้อง |
พ.ศ. ๒๕๑๐ | เป็น เจ้าอาวาสวัดบ้านส้อง |
พ.ศ. ๒๕๑๘ | เป็น พระอุปัชฌาย์ |
พ.ศ. ๒๕๒๘ | เป็น เจ้าคณะอำเภอเวียงสระ |
ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเวียงสระ |
พ.ศ. ๒๔๙๙ เป็น
เปรียญธรรม ๓ ประโยค
|
พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็น
พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท
ที่ พระครูโกวิทสิกขการ
|
พ.ศ. ๒๕๒๑ เป็น
พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นโท
ในราชทินนามเดิม
|
พ.ศ. ๒๕๓๓ เป็น
พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอ ชั้นเอก
ในราชทินนามเดิม
|
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็น
พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอ ชั้นพิเศษ
ในราชทินนามเดิม
|
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ เป็น
พระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ
ที่ พระวัตตจารีศีลสุนทร
[1]
|
1. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๑๒๓, ตอนที่ ๒๕ ข, ๒๙ ธันวาคม ๒๕๔๙, หน้า ๒๗ |
กลุ่ม สมณฐานันดรศักดิ์ พระสงฆ์ไทย |
วัดบ้านส้อง ชวนสวดมนต์วันอาทิตย์ |
ทำเนียบพระราชาคณะ ฉบับสมบูรณ์ พุทธศักราช ๒๕๕๙. ปทุมธานี : บริษัท สำนักพิมพ์ สื่อตะวัน จำกัด. หน้า ๑๘๖ |
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook