บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ ณ วัดต้นสน ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง โดยมี พระราชสุวรรณโมลี (บุญธรรม อาสโภ) ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูวิทิตธรรมภาณ เป็นพระอุปัชฌาย์

     หลังจากบวชเณรแล้วได้พำนักอยู่ที่วัดต้นสนระยะหนึ่ง มีจิตใจอยากศึกษาเล่าเรียนในฝ่ายพระปริยัติธรรม ทั้งแผนกบาลีและนักธรรม จากนั้นจึงมุ่งหน้าเดินทางมากราบนมัสการเจ้าคุณพระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ) ขอเข้าอยู่ที่วัดประดู่ฉิมพลี แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เพื่อจะใช้เป็นที่อาศัยในระหว่างเรียนบาลีไวยากรณ์ที่วัดปากน้ำ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร คือ พอถึงเวลาเรียนก็เดินไปเรียนที่วัดปากน้ำ ครั้นถึงเวลาพักก็กลับมานอนที่วัดประดู่ฉิมพลี ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท่านได้มีโอกาสได้กราบนมัสการเจ้าคุณพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด จนฺทสโร) อีกด้วย หลวงพ่อนงค์ศึกษาบาลีไวยากรณ์จนสามารถสอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร และในทางด้านไสยเวทวิทยาคม มีการฝึกเขียนอ่านตัวหนังสือขอม การฝึกจิตตภาวนา คาถาอาคม รวมทั้งเขียนยันต์อักขระต่างๆ ยังได้รับความเมตตาจากหลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ เป็นผู้ถ่ายทอดให้ และเมื่ออายุครบบวชพระก็ยังได้นิมนต์หลวงปู่โต๊ะให้ไปนั่งเป็นพระอุปัชฌาย์ที่วัดบ้านเกิดของท่าน

     อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ ณ พัทธสีมา วัดโคกหิรัญ ตำบลบางชะนี อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี พระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ) วัดประดู่ฉิมพลี แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระราชสุวรรณโมลี (บุญธรรม อาสโภ) วัดต้นสน ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สุ่ม วัดโคกหิรัญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาทางมคธภาษาว่า "อภิชาโต" แปลว่า "ผู้มีชาติอันยิ่งใหญ่"

     หลังจากบวชพระแล้ว หลวงพ่อนงค์ อภิชาโต ก็ได้จำพรรษาแรกที่วัดประดู่ฉิมพลีดังเดิม ซึ่งในปีนี้ท่านสามารถสอบได้เป็นเปรียญธรรม ๔ ประโยค จากนั้นหลวงพ่อก็ได้กราบลาหลวงปู่โต๊ะผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านออกไปจำพรรษาที่วัดราชวรินทร์ หรือ วัดสำเหร่ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร กาลเวลาผ่านไปกระทั่ง พ.ศ. ๒๕๑๒ หลวงพ่อนงค์ได้ย้ายมารับตำแหน่งสมภารวัดบางน้ำชน ได้พัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองดังที่ผู้คนทั่วไปได้เห็นในปัจจุบัน ทางด้านวัตถุมงคลท่านนำวิชาที่ได้เล่าเรียนมาจากหลวงปู่โต๊ะจัดสร้างขึ้นหลายรุ่น โดยแนวการสร้างพระจะยึดหลักแบบพิมพ์พระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ ซึ่งหลวงพ่อนงค์เริ่มสร้างพระปิดตาครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๕ สร้างพระปิดตามหาเศรษฐีพิมพ์ข้าวตอกแตก และสร้างเหรียญพระราหู, เบี้ยแก้ฝังตะกรุดทรายเสก และตะกรุด อภิชาโต เป็นยันต์โภคทรัพย์ เพื่อมอบให้ผู้คนทั้งหลายนำไปเก็บไว้เป็นที่ระลึกหรือบูชา

     แม้หลวงพ่อนงค์ อภิชาโต จะเปลี่ยนชื่อใหม่จาก "จํานงค์" เป็น "พัชร์นพ" แต่เหล่าบรรดาเหล่าศิษยานุศิษย์ก็ยังคงถนัดเรียกขานท่านว่า "หลวงพ่อนงค์" เหมือนเคย ปรกตินิสัยของท่านเป็นคนพูดน้อยมีเมตตาสูง จะเห็นได้จากเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา มีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์เนื้อความว่า เมรุเผาศพของวัดบางน้ำชนถล่มลงมาเนื่องจากถูกใช้งานเผาศพผู้ป่วยโควิด - ๑๙ เพราะรับเผาตลอดตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน วัดต้องรับศพผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคโควิดมาฌาปนกิจต่อเนื่อง วันละ ๓-๔ ราย เป็นเหตุทำให้เมรุเกิดถล่มลงมาในที่สุด การสงเคราะห์ชาวบ้านอย่างไม่รังเกียจของท่านนี้เอง จึงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในชุมชนและผู้คนทั่วไปที่มีโอกาสได้กราบนมัสการหลวงพ่อ