|
VIEW : 889
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูล มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๒ คน คือ
๑. พระครูปิยธรรมาภรณ์ (ชุ่ม ปิยกโร)
๒. นายประเสริฐ ทิพยเสวต (รับราชการครู) เสียชีวิตแล้ว
บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๒ (อายุ ๑๖ ปี) ณ พัทธสีมาวัดตรีนิมิตร ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี พระอโนมคุณมุนี (กิ้ม วิสารโท ป.ธ.๖) ผู้ช่วยเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ธ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดธรรมบูชา ตำบลท้ายตลาด อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ พระครูโพธาภิรามมุนี เจ้าอาวาสวัดท่าโพธิ์วรวิหาร ตำบลท่าวัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระอุปัชฌาย์ และมีพระมหาพร้อม ญาณวีโร เจ้าอาวาสวัดตรีนิมิตร ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระอาจารย์ผู้อบรมสั่งสอนต่อมาพระมหาพร้อมได้นำสามเณรชุ่มไปอยู่ประจำพรรษา ณ วัดบุปผารามวรวิหาร แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๖ (อายุ ๒๐ ปี) ณ พัทธสีมาวัดบุปผารามวรวิหาร แขวงวัดกัลป์ยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร โดยมี พระธรรมวราลังการ วิสุทธิญานนายก ตรีปิฎกธรรมประสิทธิ์ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวสี (กล่อม อนุภาสเถร) รองเจ้าคณะภาค ๑๖-๑๗-๑๘ กิตติมศักดิ์ (ธ) ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพปัญญามุนี ตรีปิฎกโกศล วิมลธรรมนิวิษฐ์ ศาสนกิจธุราทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี เจ้าอาวาสวัดบุปผารามวรวิหาร แขวงวัดกัลป์ยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระภัทรมุนี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูบูรณศีลาจาร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ในระหว่างที่ประจำพรรษาอยู่วัดบุปผารามวรวิหารได้ศึกษาพระธรรมวินัยเรียนพระปริยัติธรรมศึกษาทั้งทางธรรมจนจบนักธรรมชั้นเอกและวิชาชีพครู คือสอบได้ครูพิเศษมูลท่านจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมประจำสำนักเรียนวัดบุปผารามวรวิหาร
ประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนวัดตรีเอการาม ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช |
ประกาศนียบัตรประโยคครูพิเศษมูล (พ.) |
นักธรรมชั้นเอก |
พ.ศ. ๒๕๐๓ | เป็น เจ้าอาวาสวัดตรีนิมิตร |
ครูสอนพระปริยัติธรรมประจำสำนักเรียนวัดบุปผารามวรวิหาร | |
พ.ศ. ๒๕๐๓ สร้างสะพานข้ามคลองวัดตรีนิมิตร สร้างเมรุเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระมหาพร้อม ญาณวีโร อดีตเจ้าอาวาส
พ.ศ. ๒๕๐๔ สร้างโรงครัวและหอฉัน
พ.ศ. ๒๕๐๕ สร้างเสริมเสนาสนะที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์มหาวาตภัยแหลมตะลุมพุก
พ.ศ. ๒๕๐๖ สร้างเครื่องไฟฟ้าจำนวน ๓ เครื่อง
พ.ศ. ๒๕๐๗ สร้างวิหารแทนหลังเก่าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์มหาวาตภัยแหลมตะลุมพุก
พ.ศ. ๒๕๐๘ สร้างเรือพร้อมเครื่องหางยาวเพื่อบรรทุกทรายถมวัด
พ.ศ. ๒๕๐๙ ปรับปรุงซ่อมแซมตึกกุฏิหลังเก่า
พ.ศ. ๒๕๑๐ สร้างรูปหล่อพระมหาพร้อมญาณวีโร เท่าตัวจริง
พ.ศ. ๒๕๑๑ สร้างระฆังใหญ่
พ.ศ. ๒๕๑๒ สร้างธรรมาสน์จำนวน ๒ ชุด
พ.ศ. ๒๕๑๓ สร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่
พ.ศ. ๒๕๑๔ สร้างถนนเข้าวัดตรีนิมิตร
พ.ศ. ๒๕๑๕ สร้างสระน้ำใหญ่ ขนาดกว้างยาว ๓ เส้น
พ.ศ. ๒๕๑๖ สร้างพระพุทธเทพนิมิตชินราชและตู้พระไตรปิฎก
พ.ศ. ๒๕๑๗ ปลูกต้นไม้ริมถนนและบริเวณวัดตรีนิมิตรจำนวน ๒,๐๐๐ ต้น
พ.ศ. ๒๕๑๘ บรรทุกทรายถมวัดจำนวน ๓๐๐ เกวียน
พ.ศ. ๒๕๑๙ สร้างเสื่อพลาสติกชนิดยาว ๑๐ เมตร จำนวน ๓๐ ม้วน
พ.ศ. ๒๕๒๑ - ๒๕๒๕ สร้างไฟฟ้าเข้าวัดตรีนิมิตรและชาวบ้านได้ใช้ร่วมกันในปี ๒๕๒๑ และสร้างตึกสงฆ์ ๒ ชั้น
พ.ศ. ๒๕๒๔ - ๒๕๒๕ สร้างถนนจากวัดตรีนิมิตรกว้าง ๑๐ เมตร สูง ๑ เมตร ยาว ๓,๐๘๘ เมตร ถึงวัดท่าสะท้อน หมู่ที่ ๒ ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดให้เครื่องจักรกลและประชาชนร่วมบริจาคซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและที่ดิน
พ.ศ. ๒๕๒๖ จัดตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษา โดยได้รับความร่วมมือร่วมใจจากประชาชนช่วยกันบริจาคเงินสร้างอุปกรณ์เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการจัดการศึกษา สร้างถนนวัดตรีนิมิตรต่อไปจากวัดท่าสะท้อนถึงถนนพัฒนาบ้านบ่อจิก หมู่ที่ ๙ ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กว้าง ๑๐ เมตร สูง ๑ เมตร ยาว ๒,๑๐๒ เมตร และเป็นผู้บริจาคให้ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมด้วยเงินบำรุงวัดตรีนิมิตรและที่ดินประชาชนบริจาค อุปถัมภ์ส่งเสริมให้ประชาชนสามตำบล คือ ตำบลบางจาก ตำบลท่าเรือ ตำบลท่าไร่ จัดตั้งศูนย์บริการชุมชนวัดตรีนิมิตรเพื่อความอยู่ดีกินดีมีสุขของประชาชนส่วนใหญ่ และปลูกต้นมะขามริมวัดตรีนิมิตรถึงถนนพัฒนาบ้านบ่อจิกจำนวน ๒,๐๐๐ ต้น
พ.ศ. ๒๕๒๗ กำลังหาทุนเพื่อสร้างพระอุโบสถและวิหารคู่สำหรับประดิษฐานรูปเหมือนของพระมหาพร้อม ญาณวีโร อดีตเจ้าอาวาส
พ.ศ. ๒๕๓๖ พระอุโบสถและพระวิหารคู่สำเร็จสมบูรณ์
พ.ศ. ๒๕๓๖ - ๒๕๓๘ สร้างเมรุเผาศพแบบเตาเผา
พ.ศ. ๒๕๔๔ - ๒๕๔๗ สร้างศาลาเอนกประสงค์ทิพย์สมบัติ
พ.ศ. ๒๕๕๒ สร้างหออาณัติ (หอกลอง-หอระฆัง) และสร้างหอเก็บรูปหุ่นของท่านเอง
เมื่อพระครูปิยธรรมาภรณ์ได้บรรพชาอุปสมบทแล้ว ท่านได้ตั้งใจบำเพ็ญตนต่อบวรพระพุทธศาสนาและสาธารณประโยชน์มาตลอดโดยมิได้ขาดตกบกพร่องแต่ประการใดเป็นระยะเวลาเกือบ ๖๐ ปี แต่ด้วยความเสื่อมไปของสังขารประกอบการสังฆกิจที่ต้องปฏิบัติ ครั้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๘ ท่านก็เริ่มอาพาธมีอาการหมดแรงเหนื่อยอ่อนบ่อยๆ บางครั้งถึงกับเป็นลมไปก็มี ในที่สุดก็ทราบว่าม่านอาพาธด้วยโรคหัวใจ (เส้นเลือดตีบตัน) จากนั้นได้เข้ารับการรักษาอาการอาพาธเบื้องต้นที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช สุดท้ายก็ไปรับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลกรุงเทพ กรุงเทพมหานคร เมื่อได้รับการผ่าตัดแล้วจึงกลับมาพักฟื้นรักษาตัวที่วัดตรีนิมิตร และไปพบแพทย์เป็นระยะๆ ตามที่แพทย์นัดหรือเมื่อมีอาการเป็นอย่างนี้เรื่อยมา
พระครูปิยธรรมาภรณ์ (ชุ่ม ปิยกโร) มรณภาพ เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓ เวลา ๑๗.๓๐ น. ณ กุฏิของท่านภายในวัดตรีนิมิตร รวมสิริอายุได้ ๗๗ ปี ๑๓ วัน พรรษา ๕๖
การถึงแก่มรณภาพของท่านนับว่าเป็นการสูญเสียพระมหาเถระรูปสำคัญของวัดตรีนิมิตร จึงนำความเศร้าโศก เสียดาย อาลัยรัก มาสู่คณะสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ศิษยานุศิษย์ ญาติมิตรใกล้ไกล และผู้ที่มีความเคารพนับถือในท่านเป็นอย่างยิ่ง คณะสงฆ์พุทธบริษัท ศิษยานุศิษย์วัดตรีนิมิตร ทั้งฝ่ายบรรพชิตและคฤหัสถ์ ได้จัดการบำเพ็ญกุศลศพอุทิศถวายทักษิณานุปทานแด่ท่านมาโดยลำดับ และกำหนดจัดงานพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันเสาร์ที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ณ เมรุพิเศษวัดตรีนิมิตร หมู่ที่ ๑ ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๒ เป็น
พระครูสังฆรักษ์
ฐานานุกรมใน พระเทพปัญญามุนี (กล่อม อนุภาโส) เจ้าอาวาสวัดบุปผารามวรวิหาร
|
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็น
พระครูสัญญาบัตร ชั้นโท
ที่ พระครูปิยธรรมาภรณ์
|
facebook กลุ่ม ประวัติวัดและพระสังฆาธิการตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช |
เกรียงศักดิ์ เมฆสุข |
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook