๑. นายหนูน กรุงแก้ว
     ๒. นายชุ่ม กรุงแก้ว
     ๓. นายหวาน กรุงแก้ว หรือพระครูศรีวุฒิคุณ
     ๔. นางหมี กรุงแก้ว
     ๕. นายเจิม กรุงแก้ว
     ๖. นางเจียม กรุงแก้ว
     ๗. นางจวน กรุงแก้ว
     ๘. พระชื่น กรุงแก้ว

     เมื่ออายุ ๑๓ ปีได้เข้ารับการศึกษาอักขระสมัยโบราณกับท่านอาจารย์ชุม เจ้าอาวาสวัดโดนธาราราม ได้มีความรู้อักษรไทยและอักษรขอมจนชำนาญกับศึกษาเลขบวก ลบ คูณ หารได้ดี

     เมื่ออายุ ๑๖ ปี ได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณรศึกษาพุทธศาสนาอยู่ ๑ ปี ก็ลาสิกขาบทออกมาช่วยเหลือบิดามารดาประกอบอาชีพทางบ้าน

     เมื่ออายุ ๒๑ ปี ได้เข้าอุปสมบทเป็นภิกษุ โดยมี พระครูใหม่ อินฺทวํโส เจ้าอาวาสวัดรามประดิษฐ์ (วัดบ้านใหม่) ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูบริหารสังฆกิจ (เต้ง เขมงฺกโร) อดีตผู้ช่วยเจ้าคณะอำเภอปากพนัง (ธ) เจ้าอาวาสวัดสระเกษ ตำบลไสหมาก อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช (เดิมขึ้นกับ ตำบลบางตะพง อำเภอปากพนัง) ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูสังฆรักษ์ที่ พระครูสังฆรักษ์เต้ง เขมงฺกโร วัดรามประดิษฐ์ (วัดบ้านใหม่) ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอาจารย์หนู เจ้าอาวาสวัดมหิสสราราม (วัดกลาง) ตำบลคลองน้อย อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่อครั้งที่ท่านทั้ง ๓ เป็นฝ่ายมหานิกาย

     เมื่อบวชแล้วได้อยู่ประจำพรรษาที่วัดโดนธารารามกับท่านอาจารย์ชุมเป็นเวลา ๓ พรรษา จึงขอลาท่านอาจารย์ชุมจากวัดโดนธารารามไปอยู่วัดสุขุมกับท่านอาจารย์อุปัชฌาย์รอด จนฺทสุวณฺโณ เจ้าคณะตำบลคลองกระบือ เจ้าอาวาสวัดสุขุม ตำบลคลองกระบือ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อศึกษาปริยัติธรรมและภาษาบาลีมูลเป็นเวลา ๕ ปี มีความรู้เหมาะสมแก่อัตภาพในสมัยนั้นแล้วจึงลากลับมาประจำพรรษาอยู่ที่วัดโดนธารารามตั้งแต่บัดนั้นจนถึงอายุขัย

     ขณะที่ประจำพรรษาอยู่วัดโดนธารารามในระยะต้นๆนั้นได้เป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าอาวาส ทำหน้าที่รองเจ้าอาวาสมีความสามารถ งานสำคัญต่างๆได้สำเร็จเป็นส่วนมาก