พระครูวัตตปาโมชช์ (ชุ่ม สารสุวณฺโณ) | พระสังฆาธิการ

พระครูวัตตปาโมชช์ (ชุ่ม สารสุวณฺโณ)


 
เกิด ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๓๘
อายุ ๗๗ ปี
อุปสมบท ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๘
พรรษา ๕๗
มรณภาพ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๕
วัด วัดเสมาเมือง
ท้องที่ นครศรีธรรมราช
สังกัด มหานิกาย
วุฒิการศึกษา น.ธ.โท


VIEW : 1,030

เพิ่ม/แก้ไขข้อมูล

สถานะเดิม


     พระครูวัตตปาโมชช์ มีนามเดิมว่า ชุ่ม นาคะปราโมชย์ เกิดเมื่อวันพุธที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๓๘ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะแม (วันวิสาขบูชา) ณ ตรอกวัดหน้าพระคลัง (ปัจจุบันเป็นสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช) ตำบลประตูไชยเหนือ (ปัจจุบันรวมเป็น ตำบลในเมือง) อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โยมพ่อชื่อนายชื่น นาคะปราโมชย์ โยมแม่ชื่อนางปราง นาคะปราโมชย์

มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๒ คน ดังนี้
     ๑. นางบุญนาค นาคะปราโมชย์
     ๒. พระครูวัตตปาโมชช์ (ชุ่ม นาคะปราโมชช์)

     ภายหลังโยมพ่อโยมแม่แยกทางกันต่างฝ่ายก็ต่างไปมีครอบครัวใหม่ ท่านจึงไปอาศัยอยู่กับย่าหนูหมีที่บ้านตรอกวัดหน้าพระคลังซึ่งเป็นสถานที่เกิดของท่าน


ชีวิตปฐมวัย

     ด.ช.ชุ่ม นาคะปราโมชช์ ได้เจริญเติบโตที่บ้านย่าคือนางหนูหมี ที่บ้านตรอกวัดหน้าพระคลัง พออายุ ๕-๖ ขวบ พอยกปิ่นโตได้ย่าหนูหมีจึงนำไปฝากเป็นศิษย์กับสมภารเอียด วัดเสมาชัย (ปัจจุบันรวมเป็นวัดเสมาเมือง) ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะนั้น ด.ช.ชุ่ม ไว้ผมจุกรูปร่างโอ่กินหมากปากแดง ท่านเป็นศิษย์คนเล็กสุดในบรรดาศิษย์ของท่านสมภารเอียดและเป็นศิษย์รักมากกว่าศิษย์คนอื่นๆ ต่อมาสมภารเอียดได้ลาสิกขาบท ท่านได้ย้ายไปอยู่กับพี่เขยซึ่งบวชเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดท่าโพธิ์วรวิหาร ท่านได้ถูกคัดเลือกเป็นเด็กอยู่เวรหน้าห้องพระรัตนธัชมุนีศรีธรรมราช สังฆนายกตรีปิฎกคุณาลังการ ศีลสมาจารวินัยสุนทร ยติคณิศรบวรสังฆาราม คามวาสี (ม่วง รตนธชเถร เปรียญ) อดีตเจ้าคณะมณฑลนครศรีธรรมราช เจ้าอาวาสวัดท่าโพธิ์วรวิหาร ตำบลท่าวัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพกวี ศรีวิสุทธิดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต ยติคณิศร บวรสังฆารามคามวาสี เจ้าอาวาสวัดท่าโพธิ์วรวิหาร ตำบลท่าวัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช พอรุ่งปีพี่เขยได้ลาสิกขาบทย่าหนูหมีได้นำไปฝากตัวกับพระครูกาชาด (ย่อง อินฺทสุวณฺโณ) เจ้าอาวาวัดวังตะวันตก ตำบลคลัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่ไม่ถึงปีท่านทำผิดไม่ทราบประการใด พระครูกาชาดจะเฆี่ยนท่านตกใจกลัวจึงหนีออกจากวัดวังตะวันตกมาอยู่กับย่าหนูหมี ขณะนั้นพระครูกาเดิม (รักษ์) ได้ย้ายจากวัดบูรณาราม (วัดหัวหมอ) ตำบลท่าวัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช มาเป็นเจ้าอาวาสวัดเสมาเมือง ได้สร้างโรงเรียนสามัญสมัยใหม่ขึ้นในวัดเสมาเมืองท่านลงทุนลงแรงออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดตั้งแต่ค่าสร้างโรงเรียนและค่าจ้างครูสอน ครูคนแรกของโรงเรียนวัดเสมาเมืองคือ ครูชม นุกูลเชาว์ ย่าหนูหมีจึงนำตัวท่านไปฝากกับพระครูกาเดิม (รักษ์) เพื่อให้ขึ้นโรงเรียน ท่านเป็นนักเรียนรุ่นแรกมี ๑๘ คน ท่านศึกษาจนจบชั้นประโยคประถม ๓ เมื่อเรียนจบแล้วจึงได้ไปอยู่กับแม่ปรางและแม่เฒ่ากรงที่บ้านหัวคูตก ไม่ได้ทำงานอะไรเนื่องจากแม่ปรางไม่สบาย ไม่มีใครทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวท่านเลยตกยาก ต้องออกไปเลี้ยงวัว หาปลา ลากเกวียนขายข้าวสารกับหมู่ญาติๆ เมื่อย่าหนููหมีทราบข่าวว่าหลานไปตกระกำลำบากจึงไปพาตัวท่านกลับมายังบ้านตรอกหน้าวัดพระคลังตามเดิม และนำตัวท่านไปฝากกับพระครูกาชาด (ย่อง อินฺทสุวณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดวังตะวันตกอีกครั้ง พระครูกาชาดจำได้จึงพูดว่า “อ้ายเฒ่านี้ หนีกูไปคราวนั้น จับมาก็ดีแล้ว กูจะทุบให้เจ็บ” ท่านตกใจมากกลัวตัวสั่นแต่ท่านไม่เฆี่ยนตีคงพูดขู่ไปเท่านั้นเอง


บรรพชาอุปสมบท

     บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๖ (อายุ ๑๘ ปี)ณ พัทธสีมาวัดวังตะวันตก ตำบลคลัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี พระครูกาชาด (ย่อง อินฺทสุวณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก ตำบลคลัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช

     อยู่ได้ประมาณ ๑ พรรษา แม่ปรางได้นิมินต์ให้ไปประจำพรรษาที่วัดหน้าพระลาน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เรียนสวดสังคหะกับสมภารเอียดจนได้เป็นนักสวดสังคหะ

     เมื่ออายุครบบวชได้เรียนขานนาคกับพระครูเทพเจติยาภิบาล (พลับ อิสฺสโร) วัดหน้าพระลาน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช

     อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๘ (อายุ ๒๑ ปี) ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีเถาะ เวลา ๑๔.๒๕ น. ณ พระวิหารหลวงวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (ขณะนั้นวัดหน้าพระบรมธาตุ วัดหน้าราหู วัดประตูลักษณ์ วัดหน้าพระลาน วัดสระเรียงใช้พระวิหารหลวงทำพิธีบรรพชาอุปสมบท) ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี พระครูกาแก้ว (บุญศรี) เจ้าอาวาสวัดหน้าพระบรมธาตุ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระอุปัชฌาย์ ครั้งดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดหน้าราหูและวัดประตูลักษณ์ (ภายหลังพระศรีธรรมราชมุนี ปริยัติธรรมวาที สังฆปาโมกข์ (หมุ่น อิสฺสโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าอาวาวัดหน้าพระบรมธาตุ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ พระครูกาแก้ว เจ้าอาวาสวัดหน้าพระบรมธาตุ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รวมเอาวัดหน้าพระบรมธาตุ วัดหน้าราหู วัดประตูลักษณ์ เข้าไว้ด้วยกันเรียกว่าวัดหน้าพระบรมธาตุ) พระอาจารย์จันทร์ โกนาโค วัดหน้าพระลาน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้ขนานนามฉายา "สารสุวณฺโณ"

     หลังจากอุปสมบทแล้วได้ไปประจำพรรษา ณ วัดหน้าพระลานตามเดิม ได้เรียนบุพพสิกขา และวินัย ๑๐ ผูกกับสมภารเอียดและเป็นนักสวดสังคหะเรื่อยมา


การศึกษา

     พ.ศ. ๒๔๖๑ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี ท่านสอบได้ลำดับที่ ๑ ของจังหวัด สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จึงได้ประทานรางวัลคือ จีวรแพร ๑ ไตร นาฬิกาพก ๑ เรือน แล้วมีลิขิตถึงท่าน ๑ ฉบับ ในลิขิตมีข้อความว่า "ให้พระชุ่มไปกรุงเทพฯ จะไปอยู่วัดมหานิกายก็ได้ วัดธรรมยุติก็ได้ ทางคณะสงฆ์จะสนับสนุนเต็มที่" แต่ท่านปฏิเสธเนื่องจากเจ็บหลังปวดบั้นเอว นั่งนานไม่ได้ ไม่สะดวกแก่การเรียนซึ่งเป็นโรคประจำตัวมาแต่เดิม ต่อมาได้ไปเรียนบาลีกับพระรัตนธัชมุนีศรีธรรมราชธรรมสาธก ตรีปิฎกคุณาลังการ ศีลสมาจารวินัยสุนทร ธรรมิกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี (แบน คณฺฐาภรณเถร เปรียญ) อดีตรองเจ้าคณะภาค ๑๖-๑๗-๑๘ (ธ) เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระมหาแบน คณฺฐาภรโณ เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เรียนได้ ๑ ปีก็ขึ้นเรียนแปลธรรมบท

     พ.ศ. ๒๔๖๖ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท ท่านสอบได้ลำดับที่ ๑ เช่นกัน


การศึกษา

พ.ศ. ๒๔๖๑ สอบได้ นักธรรมชั้นตรี
พ.ศ. ๒๔๖๖ สอบได้ นักธรรมชั้นโท

ตำแหน่ง

ฝ่ายปกครอง

พ.ศ. ๒๔๗๐ - ๒๔๗๓  เป็น เจ้าอาวาสวัดมำบัง (วัดชนาธิปเฉลิม)
พ.ศ. ๒๔๗๐  เป็น รักษาการเจ้าคณะแขวงจังหวัดสตูล
พ.ศ. ๒๔๗๕  เป็น เจ้าอาวาสวัดเสมาเมือง
พ.ศ. ๒๔๗๗  เป็น เจ้าคณะหมวดปากนคร
พ.ศ. ๒๔๘๑  เป็น พระอุปัชฌาย์

ฝ่ายการศึกษา

พ.ศ. ๒๔๖๔ - ๒๔๖๙  เป็น ครูสอนนักธรรมชั้นตรี
พ.ศ. ๒๔๗๐  เป็น ครูสอนนักธรรมชั้นโท

งานสาธารณูปการ

พ.ศ. ๒๔๙๓-๒๕๐๐ สร้างพระอุโบสถวัดเสมาเมือง งบประมาณ ๑๒๐,๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๔๙๙ สร้างหอพระประธานเก่า หอระฆัง กำแพง โรงฉัน สร้างวิหารเรือสำเภา งบประมาณ ๑๘๐,๐๐๐ บาท ปรับปรุงบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัดเสมาเมือง


สถานที่ประจำพรรษา


พ.ศ. ๒๔๕๘-๒๔๖๙ ประจำพรรษา ณ วัดหน้าพระลาน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ.ศ. ๒๔๗๐-๒๔๗๒ ประจำพรรษา ณ วัดชนาธิปเฉลิมพระอารามหลวง (วัดมำบัง) ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล
พ.ศ. ๒๔๗๓-๒๔๗๔ ประจำพรรษา ณ วัดหน้าพระลาน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ.ศ. ๒๔๗๕-๒๕๑๕ ประจำพรรษา ณ วัดเสมาเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช


ปฏิปทา


     พระครูวัตตปาโมชช์ มีนิสัยแปลกกว่าผู้อื่นอยู่หลายอย่างที่เป็นของเฉพาะตน คือท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครมีนิสัยดื้อรั้นในมติของตนไม่ค่อยยอมลงให้ผู้อื่น ไม่ฆ่าลูกน้อง ลูกศิษย์ลูกหาและญาติๆ ท่านจะยินดีช่วยเหลือไม่ละทิ้ง ถ้าท่านช่วยแล้วเป็นต้องพยายามจนสำเร็จ มีมานะ บุคคลผู้ใดจะเป็นผู้ใหญ่หรือผู้น้อยถ้ามาหาท่านเพียงครั้งเดียวต่อไปก็จะมาหาอีกเรื่อยๆ ท่านมีเสน่ห์คนติดและไม่เบื่อหน่ายมีศรัทธาต่อท่านไม่เสื่อมคลาย เพราะปฏิปทาของท่านเป็นผู้เรียบร้อย รู้จักวางตน เป็นคนตระหนี่ มัธยัสถ์ พูดน้อย ท่านเป็นช่างทำได้ทุกชนิด พระอุโบสถ วิหาร กุฏิ หรือสิ่งก่อสร้างต่างๆภายในวัดเสมาเมืองส่วนใหญ่ท่านจะเป็นคนควบคุมงานการก่อสร้างเองเกือบทั้งหมด เป็นผู้ชอบระเบียบรักสะอาด ชอบทำอะไรเป็นหลักฐานและบันทึกไว้ทุกระยะๆ โดยเฉพาะเรื่องเงินทองภายในวัดท่านจะทำบัญชีมีหลักฐานบันทึกไว้ทุกตอน อีกทั้งมีสมุดไดอารี่บันทึกข้อมูลต่างๆไว้มากมาย ใครบริจาคเท่าไหร่ ใครมาเยี่ยม วันนี้ทำอะไร สวดที่ไหน นั่งอุปัชฌาย์ที่ไหน ใครถวายอะไร ที่กระป๋อง ที่ขวด ที่ลูกกุญแจท่านยังบันทึกไว้ เขียนวันที่ ปีพุทธศักราชไว้ เขียนไม่ติดก็อุตส่าห์เอาเหล็กแหลมมาเขียนไว้ สร้างอะไร ที่ไหน เมื่อใด รวมทั้งเหตุการณ์ตอนที่ท่านเข้ารับการรักษาโรคประจำตัวจนกระทั่งมรณภาพ จนทำให้ลูกศิษย์ส่งมาถวายปีละหลายๆเล่ม เป็นผู้เคร่งครัดในพระวินัยและระเบียบของวัด ท่านวางระเบียบไว้กวดขัน ห้ามสวมรองเท้าออกนอกวัด ต้องฉันรวมกันห้ามแยกกันฉัน การรับเด็กวัด การรับกิจนิมนต์ การขออนุญาตต่างๆต้องขึ้นกับท่านเพียงผู้เดียว การรับพระเณร การแจกจ่ายให้อยู่ในเสนาสนะต่างๆเป็นสิทธิ์ของท่าน มีเหตุการณ์หรือมีงานอะไรต้องช่วยกันทำทั้งเด็กวัดทั้งพระเณร ส่วนเรื่องวินัยนั้นถ้าเกี่ยวกับผู้หญิงแล้วถ้าท่านรู้เข้าว่าพระเณรรูปใดพูดจากับผู้หญิงสองต่อสองก็ดี มีคนมาบอกเกี่ยวกับผู้หญิงก็ดี ท่านจะลงมือไปสืบเองทีเดียว บางครั้งถึงเอาไม้ทุบตีจนวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง ถ้าเป็นลูกศิษย์ของท่านแล้วท่านจะทำการสึกเสียในขณะนั้น ถ้าเป็นอันเตวาสิกมาอาศัยอยู่ด้วยต้องถูกขับออกจากวัดในทันที ดังนั้นวัดเสมาเมืองจึงไม่เคยเสียหายในเรื่องผู้หญิงยิงเรือโดยตลอดมา

มรณกาล


     ที่ทราบกันอยู่แล้วว่าท่านมีโรคประจำตัวคือปวดสะเอวปวดสันหลังและปัสสาวะขัดเบา ท่านฉันยามาเรื่อยๆอาการก็ทรงอยู่อย่างนั้น ยาไตฉันเป็นร้อยๆขวด ยาต้มยาไทยฉันเป็นร้อยๆขนาน อาการมากำเริบมากขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๐ ท่านได้รับรักษาที่โรงพยาบาลสงฆ์ กรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และคลินิคส่วนตัวเรื่อยมาเป็นเวลา ๕ ปีเศษ

     พระครูวัตตปาโมชช์ (ชุ่ม สารสุวณฺโณ) มรณภาพลงด้วยอาการสงบ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๕ ตรงกับวันขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๔ ปีกุน เวลา ๐๐.๐๑ น. ณ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งสร้างความเศร้าโศกเสียใจและความอาลัยต่อคณะสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ พุทธบริษัทเป็นอันมาก จึงได้จัดงานบำเพ็ญกุศลศพอุทิศถวายทักษิณานุปทานเป็นเวลา ๗ วันแล้วทำพิธีปิดศพไว้เป็นเวลา ๑ ปีเศษ และได้จัดงานพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๖ ปีฉลู ณ เมรุพิเศษวัดเสมาเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช สิริอายุได้ ๗๗ ปี พรรษา ๕๗

สมณศักดิ์


พ.ศ. ๒๔๖๗ เป็น พระสมุห์ ฐานานุกรมใน พระศรีธรรมราชมุนี ปริยัติธรรมวาที สังฆปาโมกข์ (หมุ่น อิสฺสโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าอาวาสวัดหน้าพระบรมธาตุ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ พระครูกาแก้ว เจ้าอาวาสวัดหน้าพระบรมธาตุ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ.ศ. ๒๔๗๑ เป็น พระครูประทวนสมณศักดิ์
๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ เป็น พระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูวัตตปาโมชช์

ที่มา


facebook กลุ่ม ประวัติวัดและพระสังฆาธิการตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช

ผู้แนะนำข้อมูล


เกรียงศักดิ์ เมฆสุข


แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com

www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่

พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook