|
VIEW : 1,833
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลหลังจากเรียนจบชั้น ป. ๔ ได้ผันชีวิตเข้าสู่โลกแห่งธรรม เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดประชาเกษม อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พระครูทัศนประกาศ อดีตเจ้าคณะอำเภออำนาจเจริญ เป็นพระอุปัชฌาย์
ต่อมา สามเณรทวยเทพ มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ฝากตัวรับใช้งานแก่สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดนรนาถสุนทริการาม แขวงเทเวศน์ เขตพระนคร ขณะหลวงปู่สมเด็จฯ เมื่อครั้งที่เป็นพระธรรมวราภรณ์ โดยหลวงปู่สมเด็จฯ ได้เมตตาเอ็นดูให้อยู่รับใช้ในกุฏิ
พออายุครบ ๒๑ ปี สามเณรทวยเทพ ก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๒ ณ วัดนรนาถสุนทริการาม โดยมี สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เมื่อครั้งที่เป็นพระธรรมวราภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาศิลา สิทฺธิธมฺโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาพิสัณห์ ฐิตายุโก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานาม “สุภาจาโร” แปลว่า ผู้มีมารยาทและความประพฤติอันงดงาม
ต่อมา สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นพระครูฐานานุกรมที่ “พระครูปลัดสุวัฒนพรหมจริยคุณ” รวมทั้งศึกษาสำเร็จเปรียญธรรม ๔ ประโยค ได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย จนสำเร็จปริญญาตรีศาสนบัณฑิต
ก่อนเดินทางไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยพาราณสี ประเทศอินเดีย สำเร็จปริญญาโท สาขาปรัชญา
เมื่อกลับสู่ประเทศไทย ได้เข้าพักที่วัดนรนาถสุนทริการาม กรุงเทพฯ แต่เวลาเพียงไม่นาน ท่านได้รับนิมนต์จากวัดป่าธรรมชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจเผยแผ่ธรรมเป็นเวลา ๑ ปี
หลังจากนั้น หลวงพ่อทวยเทพได้เข้ากราบลาสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ เพื่อขออนุญาตไปทดลองปฏิบัติสมาธิภาวนาในป่าเขา โดยสมเด็จมหามุนีวงศ์ได้ฝากฝังท่านไว้กับ หลวงปู่แปลง สุนทโร ศิษย์เอกหลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จังหวัดสกลนคร
ครั้นปฏิบัติธรรมที่วัดป่าอุดมสมพรได้ระยะเวลาหนึ่ง ท่านได้รับทราบจากแม่ชีสูงอายุปฏิบัติธรรมในวัดว่า อยากขออาราธนาให้ท่าน ไปที่หมู่บ้านกลางทุ่งนา บ้านนาตงใหญ่ ตำบลนาตงวัฒนา อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร เนื่องจากไม่มีใครกล้าเข้าไปหักล้างถางพง เพราะสถานที่ตรงนั้นเฮี้ยนมาก ใครทำไม่ดี มักมีอันเป็นไป
ชาวบ้านจึงขออาราธนาท่านไปแผ่เมตตา และสร้างวัดบริเวณนั้น แต่หลวงพ่อทวยเทพเพียงตั้งใจมาสร้างสถานปฏิบัติธรรมเท่านั้น
เวลาผ่านไป ๓ ปี ในที่สุด คณะศิษยานุศิษย์ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ได้นำแปลนกุฏิมาให้ดูและบอกว่าจะสร้างสำนักวัดป่าโนนขุมเงินให้ ในที่สุด จึงได้สร้างสำนักวัดป่าโนนขุมเงิน เพื่อเปิดให้พระภิกษุสามเณรเข้าฝึกปฏิบัติธรรม โดยมีหลวงพ่อทวยเทพ นำคณะผู้ปฏิบัติธรรม ออกภาคสนาม ปฏิบัติข้างป่าช้าบ้าง ตามป่าทั่วไปบ้าง ครั้งละ ๑๐-๒๐ วัน
เจ้าอาวาสวัดป่าโนนขุมเงิน |
พระวิบูลธรรมภาณ (ทวยเทพ สุภาจาโร) เจ็บป่วยลง มีอาการอาพาธเป็นระยะ มีอาการไอ เป็นโรคประจำตัวที่เกิดจากปอด และมีอาการเรื้อรัง ญาติโยมได้นำท่านเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘
แต่อาการหลวงพ่อทวยเทพ มีแต่ทรงกับทรุดตามลำดับ จนในที่สุด วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ หลวงพ่อทวยเทพ ได้ขอกลับไปที่วัดป่าโนนขุมเงิน เพื่อกลับไปละสังขารอย่างสงบในบั้นปลายชีวิต สิริอายุ ๕๗ ปี พรรษา ๓๖
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็น
พระราชาคณะชั้นสามัญ
ที่ พระวิบูลธรรมภาณ
[1]
|
1. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๑๑๙, ตอนที่ ๒๓ ข, ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๕, หน้า ๑๗ |
ลานธรรมจักร |
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook