|
VIEW : 1,404
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลแล้วย้ายไปศึกษากับพระยาธรรมปรีชา (บุญ) พระโหราธิบดี (ชุม) พระเมธาธิบดี (จั่น) และสมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฑฺฒโน) จนถึงปีกุน พ.ศ. ๒๔๑๘ จึงอุปสมบทที่วัดบุปผาราม โดยมี พระวิเชียรกระวี (เดช) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสาสนโสภณที่พระธรรมวโรดม (สา ปุสฺสเทโว) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ คุณถมยาธิดาของพระยาโชฎึกฯ (ฟัก) เป็นเจ้าภาพ หลังอุปสมบทได้ย้ายไปอยู่วัดคณิกาผลบ้าง วัดกันมาตุยารามบ้าง เพื่อให้ใกล้กับบ้านพระยาธรรมปรีชา (บุญ)
ท่านเข้าสอบครั้งแรกในปีชวด พ.ศ. ๒๔๑๙ ที่พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท แปลได้ประโยค ๑ จึงไม่ได้เป็นเปรียญ จนถึงปีมะเมีย พ.ศ. ๒๔๒๕ จึงเข้าสอบอีกได้เปรียญธรรม ๔ ประโยค และเข้าสอบครั้งสุดท้ายในปีจอ พ.ศ. ๒๔๒๙ ได้เพิ่มอีก ๓ ประโยครวมเป็นเปรียญธรรม ๗ ประโยค
ในปี พ.ศ. ๒๔๓๐ ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะไปครองวัดพิชยญาติการาม นอกจากนี้ยังได้รับแต่งตั้งในหน้าที่อื่น ๆ อีก ได้แก่ วันที่ ๘ มกราคม ร.ศ. ๑๑๔ ท่านได้รับพระราชทานตราตั้งเป็นสภานายกกรรมการมหามกุฏราชวิทยาลัยฝ่ายบรรพชิต และในปี ร.ศ. ๑๑๕ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตในขณะนั้น ได้ทรงแต่งตั้งท่านเป็นกรรมการเถรสมาคมคณะธรรมยุตชุดแรก
เมื่อพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) เสร็จ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบริจาคพระราชทรัพย์ซ่อมแซมกุฏิสมเด็จพระสังฆราชจนสวยงาม ถึงในวันที่ ๒๖ เมษายน ร.ศ. ๑๒๐ จึงโปรดฯ ให้แห่พระสาสนโสภณ (อ่อน อหึสโก) จากวัดพิชยญาติการาม ลงทางเรือมาเป็นเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐฯ ท่านได้ครองวัดนี้ตราบจนมรณภาพ
เมื่อทรงประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ ได้ทรงโปรดฯ ให้พระสาสนโสภณเป็นเจ้าคณะมณฑลกรุงเทพฯ และพระราชทานสัญญาบัตรเจ้าคณะมณฑลแก่ท่าน ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ศกนั้น
พ.ศ. ๒๔๓๐ - ๒๔๔๔ | เป็น เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร |
พ.ศ. ๒๔๔๔ - ๒๔๕๓ | เป็น เจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร |
พ.ศ. ๒๔๔๕ | เป็น เจ้าคณะมณฑลกรุงเทพมหานคร |
พระสาสนโสภณ (อ่อน อหึสโก ป.ธ.๗) อาพาธเป็นวัณโรคมาช้านาน แพทย์พยายามรักษาแต่อาการมีแต่ทรงกับทรุด จนถึงแก่มรณภาพเมื่อวันอังคารที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๓ เวลายามเศษ ณ กุฏิ วัดราชประดิษฐฯ วันต่อมาเวลาบ่าย ๔ โมงเศษ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จฯ มาพระราชทานน้ำสรงศพ โกศแปดเหลี่ยม ฉัตรเบญจา ๔ คัน เป็นเกียรติยศ และโปรดให้พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมมีกำหนด ๓ เดือน
๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๓๐ เป็น
พระราชาคณะ
ที่ พระเมธาธรรมรส
มีนิตยภัตรเดือนละ ๔ ตำลึง ได้รับพระราชทานตาลปัตรแฉกหักทองขวางเป็นเครื่องยศ
|
๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๓๗ เป็น
พระราชาคณะผู้ใหญ่
ที่ พระเทพกระวี ศรีวิสุทธินายก ตรีปิฎกปรีชา มหาคณฤศร บวรสังฆารามคามวาสี
มีนิตยภัตรเดือนละ ๔ ตำลึงกึ่ง
|
๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๙ เป็น
พระราชาคณะชั้นธรรม
ที่ พระธรรมไตรโลกาจารย์ ญาณวิสารทะนายก ตรีปิฎกปรีชา มหาคณฤศณ บวรสังฆารามคามวาสี
มีนิตยภัตรเดือนละ ๕ ตำลึง
|
๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๔๓ เป็น
พระราชาคณะเจ้าคณะรอง
มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระสาสนโสภณ วิมลญาณอดุลย์สุนทรนายก ตรีปิฎกธรรมาลังการภูสิต ธรรมยุติกคณฤศร บวรสังฆารามคามวาสี
|
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook