ท่านเป็นบุตรคนเล็กสุดในจำนวนพี่น้องร่วมบิดา - มารดาเดียวกันทั้งหมด ๕ คน ตามลำดับดังนี้
     ๑. นางจิ๊บ เชื้อชาติ
     ๒. นายทองสุข เชื้อชาติ
     ๓. นางสั้น เชื้อชาติ
     ๔. นายอ้วน เชื้อชาติ
     ๕. หลวงปู่อ้อน กิตฺติสาโร

     พื้นฐานทางด้านครอบครัวประกอบอาชีพทำนา ท่านได้ใช้ชีวิตตามสมัยนิยมเหมือนเด็กทั่วไป กระทั้งอายุถึงเกณฑ์จึงเข้าเรียนที่โรงเรียนวัดตาล ตำบลบางตะไนย์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากนั้นก็ได้ช่วยทางบ้านทำนาปลูกข้าวเลี้ยงชีพเรื่อยมา

     อุปสมบท เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ ณ วัดตาล ตำบลบางตะไนย์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมี พระนันทวิริยาจารย์ (หลวงพ่อกุหลาบ ธมฺมวิริโย) วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ตำบลอ้อมเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวินัธรฟัก วัดเตย ตำบลบางตะไนย์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการเปลือย นราสโภ วัดตาล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางมคธภาษาว่า " กิตฺติสาโร " แปลว่า " ผู้แล่นไปด้วยเกียรติ, ผู้เคลื่อนไปด้วยความมีเกียรติ "

     เมื่อบวชแล้ว หลวงปู่อ้อน กิตฺติสาโร ได้จำพรรษาที่วัดตาล ๑ ปี เพื่อเรียนพระปริยัติธรรมฝ่ายนักธรรมกับพระอธิการเปลือย นราสโภ ผู้เป็นพระอนุสาวนาจารย์ของท่าน จากนั้นท่านได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดบางตะไนย์ และในพรรษาที่ ๖ ตอนนั้นหลวงปู่มีอายุได้ ๒๖ ปี ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดว่างลง ทางเจ้าคณะปกครองจึงได้แต่งตั้งให้ท่านดำรงตำแหน่งสมภารวัดบางตะไนย์

     ถึงจะมีหน้าที่ทางการปกครองแล้ว แต่ด้วยความเป็นพระภิกษุหนุ่มทำให้ท่านอยากแสวงหาความรู้ทางด้านเวทวิทยาคม จึงได้เดินทางไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์กับท่านพระครูนนทกิจวิมล (หลวงพ่อชื่น ตุฎธิโก) วัดตำหนักเหนือ ตำบลบางตะไนย์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยใช้วิธีเดินทางไป - กลับ ซึ่งหลวงพ่อชื่นได้สอนวิชาทำน้ำมนต์และลงตะกรุดตัวอักษรมอญให้ และนอกจากนี้ยังได้เรียนวิชาทางด้านโหราศาสตร์กับอาจารย์มหาวันอีกด้วย