|
VIEW : 1,725
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลท่านมาอยู่วัดประดู่เมื่ออายุ ๑๐ ปี กับพระอุปัชฌาย์สี ซึ่งเป็นตาของท่าน
ต่อมาได้บรรพชาเป็นสามเณรและอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๕ โดยมีหลวงพ่อสี เป็นพระอุปัชฌาย์ มีฉายาว่า สีลวฑุฒโน
พ.ศ. ๒๔๕๑ ท่านได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสุทธธรรมสมาจาร ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอรอบกรุง ต่อมา พ.ศ. ๒๔๕๗ ได้เป็นพระวิสุทธาจารย์เถร ครั้งสุดท้ายได้รับสมณศักดิ์เป็นพระวิสุทธาจารย์เถระสังฆปาโมกข์ได้รับพระราชทานพัดรองตรารัตนาภรณ์ ชั้นที่ ๔ กับได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผู้ช่วยเจ้าคณะมณฑลอยุธยา ทั้งยังเป็นผู้กำกับการพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี หลวงพ่อเลื่อง ได้ลงเครื่องทูลเกล้าฯ ถวายหลายคราวซึ่งปรากฎในหนังสือพระราชหัตเลขา เรื่องเสด็จประพาสลำน้ำมะขามเฒ่า ตอนหนึ่งว่า ๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๑ วันนี้ได้นิมนต์พระเลื่องมาลงเครื่องตามแบบพระอาจารย์สี ลงพระแสงถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทำพิธีชุบที่วัดตูม
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาราธนาท่านลงเลขยันต์และอักขระ ธงกระบี่รุช พระครุฑพ่าห์ ตามแบบของเดิมและให้ทำพิธีที่วัดตูมแล้วต่อเนื่องมาลงตะกรุดพิศมร ตะบองเพชร เป็นประ จำทุกปี แต่ในการลงยันต์และอักขระนั้น ท่านได้เกิดอาพาธจะเป็นด้วยเหตุใดไม่ทราบได้
ท่านเป็นผู้สนับสนุนเรื่องการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง จะเห็นได้จากการที่ท่านจัดตั้งการเรียนการสอนขึ้นเอง โดยมีผู้สอนคือ พระเทียม บ้านอยู่ ตำบลหันตรา พระเฉียบ บ้านอยู่ ตำบลคานหาม พระพรหม กาญจนประภา บ้านอยู่ อำเภอภาชี พระสุวรรณ มีผลกิจ บ้านอยู่คลองปากข้าวสาร ตั้งอยู่ได้ ๓-๔ ปี เมื่อพระเหล่านั้นลาสิกขาบทก็ยุบเลิกไปต่อมาไม่ช้าไม่นานก็จัดขึ้นอีก โดยมีครูปลื้มเป็นผู้สอน แต่อยู่ได้เพียง ๓-๔ ปี ก็เลิกอีก ต่อมาได้ตั้งเป็นโรงเรียนสาขาประจำมณฑลอยุธยา มีครูไข่ ครูอิน สารีบุตร เป็นผู้สอนแล้วเลยตั้งเป็นโรงเรียนประถมหัตกรรม มีการสอนวิชาช่างไม้ ช่างกลึง โดยมีพระอาจารย์เหม็ง (ต่อมาเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๕ ) เป็นผู้สอนจนได้ประกาศนียบัตร แต่ก็ต้องยกเลิกไปเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓
ในการก่อสร้างต่างๆ นั้น ท่านได้ซ่อมแซมศาลาการเปรียญซึ่งเป็นแบบโบราณและหมู่กุฎิสงฆ์ ท่านได้สร้างพระเจดีย์ใหญ่องค์หนึ่งสำหรับบรรจุอัฐิเจ้าอาวาส แต่ยังมิได้บรรจุแต่อย่างใด ต่อมาท่านได้สร้างสะพานไม้ (แทนของเดิม) ตั้งแต่วัดจนถึงท่าน้ำหน้าวัดยาวประมาณ ๑๔ เส้น โดยใช้ไม้สัก ส่วนเสาทำด้วยไม้มะค่าแต้ และแล้วท่านก็ได้เดินสะพานนี้เพียงครั้งเดียว คือเมื่อไปปลงศพเจ้าคณะอำเภอบางปะอินแล้วเกิดอาพาธ กลับมาถึงก็มรณภาพ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ อายุ ๖๐ ปี พรรษา ๓๙ พระราชทานเพลิงศพ ณ วัดประดู่ทรงธรรม เมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๕ ในการนี้ได้รับพระราชทานหีบเพลิงพร้อมด้วยเงิน ๑,๐๐๐ สตางค์ ผ้าขาว ๒ พับ ผ้าไตร ๑ ไตร
เจ้าอาวาสวัดประดู่ทรงธรรม | |
เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา |
พ.ศ. ๒๔๕๑ เป็น
พระครูสัญญาบัตร
ที่ พระครูสุทธธรรมสมาจาร
|
๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๗ เป็น
พระราชาคณะชั้นสามัญ
ที่ พระวิสุทธาจารย์เถร
|
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook