|
VIEW : 1,345
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลครั้นถึงรัชกาลที่ ๔ ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดมหาธาตุ อยู่ในสำนัก พระพุทธโฆษาจารย์ (ฉิม) แล้วต่อมาก็ลาสิกขา ไปอยู่กับบิดา ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุเท่าไร และบรรพชาอยู่กี่ปี ไม่ปรากฏ แต่คงจะบรรพชาอยู่ระยะหนึ่ง อย่างน้อยสามเดือน ตามธรรมเนียมของเจ้านายในสมัยนั้น
ในปีระกา พุทธศักราช ๒๔๐๔ เมื่อท่านอายุครบอุปสมบท พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อุปสมบท ที่พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมี สมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทฺธสิริ) ในสมัยที่ดำรงสมณศักดิ์ เป็นพระพรหมมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ มีนามฉายาว่า "ญาณวโร"
เมื่อบวชแล้ว ก็ไปอยู่วัดโสมนัสวิหาร เล่าเรียนศึกษาพระปริยัติธรรม ในสำนักสำเด็จพระวันรัต (ทับ) ตลอดมา ครั้นถึงรัชกาลที่ ๕ ท่านได้เข้าแปลพระปริยัติธรรมครั้งแรก ที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ เมื่อปีชวด พ.ศ. ๒๔๑๙ ได้เป็นเปรียญ ๔ ประโยค ต่อมาเข้าแปลอีก เมื่อปีมะเมีย พ.ศ. ๒๔๒๕ สอบได้อีก ๑ ประโยค รวมเป็น ๕ ประโยค
พ.ศ. ๒๔๓๔ - ๒๔๔๕ | เป็น เจ้าอาวาสวัดโสมนัสราชวรวิหาร |
พ.ศ. ๒๔๒๘ เป็น
พระราชาคณะ
ที่ หม่อมราชวงศ์พระราชพงษ์ปฏิพัทธ์
|
๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๒ เป็น
พระราชาคณะผู้ใหญ่ เสมอตำแหน่งชั้นเทพพิเศษ
ที่ พระราชพงษ์ปฏิพัทธ ธรรมานุวัตรวุฒินายก ตรีปิฎกปัญญา มหาคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี
|
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook