|
VIEW : 2,561
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลในขณะที่ท่านมีอายุได้ ๑๑ ปี มารดาได้นำไปฝากเรียนหนังสืออยู่ที่วัดคำเลียบ ซึ่งมีพระอาจารย์เพชร เป็นเจ้าอาวาสอยู่ในขณะนั้น ได้เรียนหนังสืออยู่กับพระอาจารย์เพชร จนอ่านออกเขียนได้ เมื่ออายุได้ ๑๔ ปี ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ ๒ ปี และลาสิกขา มาช่วยบิดามารดา ประกอบอาชีพ ทำไร่ ทำนาทำสวน
อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ ณ พัทธสีมา วัดตะเคียนทอง ตำบลคำโตนด อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี โดยมี พระครูพิพัฒน์ปัจจันตเขต (สิงห์) วัดบ้านโนน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพรหมาภิรัต วัดตะเคียนทอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการนวล วัดนิโครธาวาส เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาอยู่วัดคำเลียบ ๒ พรรษา นอกจากเรียนพระปริยัติธรรมแล้วก็ได้เรียนเลขและลูกคิด จนมีความรู้ชำนาญดี จากนั้นได้ย้ายไปอยู่จำพรรษา ณ วัดอื่นๆ เพื่อไปศึกษาพระปริยัติธรรม และเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมหลายวัด คือ
พ.ศ. ๒๔๗๗ อยู่จำพรรษาที่วัดโพธิ์ทอง ตำบลบ้านทาม อำเภอศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีนบุรี โดยมี หลวงพ่อบุญฮอต เป็นเจ้าอาวาส และมี พระอาจารย์บุญเรือง เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม
พ.ศ. ๒๔๘๓ อยู่จำพรรษาที่วัดปากพลีตำบลปากพลีอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก มีหลวงพ่อปุ่น เป็นเจ้าอาวาสและมี พระครูสุนทรธรรมประกาศ (สมุย) เป็นครูสอนธรรมกถึกและที่วัดนี้ได้รับมอบหมายให้เป็นครูสอนปริยัติธรรมทุกปี
พ.ศ. ๒๔๘๖ ได้รับมอบหมายจากหลวงพ่อเจ้าอาวาส ให้ย้ายไปอยู่จำพรรษา อยู่ที่วัดบัวลอย เมื่อออกพรรษาและรับกฐินเสร็จแล้ว ได้ย้ายกลับเข้ามาอยู่ในวัดโพธิ์ทองตามเดิม
พ.ศ. ๒๔๘๙ ได้กลับมาอยู่จำพรรษา ที่วัดคำเลียบอีก เหตุที่ย้ายกลับมา เพราะที่วัดคำเลียบ ได้ว่างจากเจ้าอาวาส ไม่มีผู้ที่จะปกครองวัด หลวงพ่อพระครูพรหมภิรัต วัดตะเคียนทอง เจ้าคณะตำบลคำโตนด พร้อมด้วยทายก ทายิกา บ้านคำเลียบได้ไปอาราธนา มาเพื่อให้ดำรงตำแหน่งเป็น เจ้าอาวาสวัดคำเลียบ
พ.ศ. ๒๕๐๙ อยู่จำพรรษา ณ วัดแจ้ง (เมืองเก่า) มีหลวงพ่อทอง เป็นเจ้าอาวาส และได้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสในกาลต่อมา
พ.ศ. ๒๔๗๕ สอบได้ นักธรรมชั้นตรี |
พ.ศ. ๒๔๗๘ สอบได้ นักธรรมชั้นโท |
พ.ศ. ๒๔๘๓ สอบได้ นักธรรมชั้นเอก |
พ.ศ. ๒๔๙๐ | เป็น เจ้าอาวาสวัดคำเลียบ |
พ.ศ. ๒๔๙๙ | เป็น พระกรรมวาจาจารย์ |
พ.ศ. ๒๕๐๘ | เป็น รักษาการเจ้าคณะอำเภอประจันตคาม |
พ.ศ. ๒๕๐๙ | เป็น พระอุปัชฌาย์ |
พ.ศ. ๒๕๐๙ | เป็น เจ้าคณะอำเภอประจันตคาม |
พ.ศ. ๒๕๑๗ | เป็น เจ้าอาวาสวัดแจ้ง |
พระมงคลวุฒิสาร (ลี อินฺทสโร) เริ่มอาพาธด้วยโรคมะเร็งในตับ และได้มรณภาพลงด้วยอาการอันสงบ เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ เวลา ๒๓.๒๕ น. ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ สิริอายุได้ ๘๘ ปี ๑๐ เดือน พรรษา ๖๗
พ.ศ. ๒๕๐๒ เป็น
พระวินัยธร
ฐานานุกรมใน พระวิสุทธิธรรมาจารย์ (ทรัพย์) วัดใหม่กรงทอง เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี
|
พ.ศ. ๒๕๐๕ เป็น
พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นตรี
ที่ พระครูพิพัฒน์วิหารกิจ
|
พ.ศ. ๒๕๐๙ เป็น
พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท
ในราชทินนามเดิม
|
พ.ศ. ๒๕๑๔ เป็น
พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นเอก
ในราชทินนามเดิม
|
พ.ศ. ๒๕๒๑ เป็น
พระครูสัญญาบัตร เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นพิเศษ
ในราชทินนามเดิม
|
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ เป็น
พระราชาคณะชั้นสามัญ
ที่ พระมงคลวุฒิสาร
[1]
|
1. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๑๑๖ , ตอนที่ ๒๓ ข , ๒๗ ธันวาคม ๒๕๔๒, หน้า ๑๐ |
ทำเนียบอดีตพระราชาคณะภาคตะวันออก |
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook