พระราชอริยคุณาธาร (หล่ำ มหาสุวณฺโณ) | พระสังฆาธิการ

พระราชอริยคุณาธาร (หล่ำ มหาสุวณฺโณ)


 
เกิด ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๓๑
อุปสมบท ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๑
มรณภาพ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๕
วัด วัดป่าประดู่
ท้องที่ ระยอง
สังกัด มหานิกาย


VIEW : 2,451

เพิ่ม/แก้ไขข้อมูล

สถานะเดิม


     พระราชอริยคุณาธาร มีนามเดิมว่า หล่ำ ยั่งยืน เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๓๑ ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีชวด สัมฤทธิศก (จ.ศ. ๑๒๕๐) ณ บ้านพลงช้างเผือก ตำบลวังหว้า อำเภอแกลง จังหวัดระยอง บิดาชื่อขุนคลังรัตน (แดง ยั่งยืน) มารดาชื่อนางหอย ยั่งยืน


การศึกษา

     เมื่อเยาว์วัยได้รับการศึกษาเบื้องต้นที่วัดพลงช้างเผือก พออายุได้ ๑๓ ปี ไปเรียนต่อที่วัดโพธิ์ทองพุทธาราม ถึง พ.ศ. ๒๔๔๖ จึงสำเร็จการศึกษาชั้นมูลฐาน ตามหลักสูตรของมหามกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ (ม.ร.ว. ชื่น สุจิตฺโต) สมัยที่ยังทรงสมณศักดิ์เป็นพระสุคุณคณาภรณ์และเป็นเจ้าคณะมณฑลจันทบุรี อำนวยการตั้งขึ้น ต่อมาได้ศึกษาต่อตามหลักสูตรของกระทรวงธรรมการจนจบหลัก สูตรประโยคประถมศึกษา หลังจากจบการศึกษาแล้ว อายุ ๑๖ ปี เริ่มรับราชการเป็นเสมียนฝึกหัดอยู่ที่ศาลยุติธรรมเมืองแกลง พออายุครบ ๑๘ ปี ก็ได้รับบรรจุเป็นเสมียนอยู่ที่ศาลยุติธรรมเมืองแกลง ทำงานอยู่ ๔ ปี จึงลาออกจากราชการเพื่ออุปสมบท


อุปสมบท

     อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๑ ณ พัทธสีมาวัดพลงช้างเผือก ตำบลวังหว้า (ปัจจุบันขึ้นกับตำบลทางเกวียน) อำเภอแกลง จังหวัดระยอง การศึกษาในระหว่างอุปสมบท เล่า ท่องสวดมนต์จบเจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน มนต์ผูกต่างๆ ถึงภาณยักษ์และปาจิโมกข์ กับทั้งได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนแตกฉาน สามารถอบรมสั่งสอนศิษยานุศิษย์ให้มีความรู้ความสามารถเป็นอย่างดี

ตำแหน่ง

ฝ่ายปกครอง

พ.ศ. ๒๔๕๗  เป็น เจ้าอาวาสวัดพลงช้างเผือก
พ.ศ. ๒๔๕๘  เป็น รองเจ้าคณะแขวงแกลง
พ.ศ. ๒๔๕๙  เป็น เจ้าคณะหมวดวังหว้า
พ.ศ. ๒๔๗๕  เป็น พระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๔๗๖  เป็น เจ้าคณะแขวงแกลง
พ.ศ. ๒๔๘๗  เป็น เจ้าคณะจังหวัดระยอง
 เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่

ฝ่ายการศึกษา

พ.ศ. ๒๔๖๐  เป็น ครูใหญ่โรงเรียนแกลง

มรณกาล


     พระราชอริยคุณาธาร (หล่ำ มหาสุวณฺโณ) ป่วยเป็นโรงมะเร็งในลำคอ ได้ไปเยียวยารักษาโดยการฉายรังษีที่โรงพยาบาลศิริราชจนทุเลาและปกติดีได้ ประมาณ ๑๐ ปี ต่อมาโรคมะเร็งกำเริบขึ้นอีก จึงเข้าไปฉายรังสีอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ทุเลา ประกอบกับฉันภัตตาหารไม่ค่อยได้ จึงทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย จนขั้นสุดท้ายฉันไม่ได้เลย จึงได้มรณภาพลงด้วยอาการอันสงบเมื่อเวลา ๐๓.๐๕ น. ของวันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ (ถ้านับตามหลักโหราศาสตร์ ยังคงอยู่ในวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันเกิดของท่านพอดี)

สมณศักดิ์


พ.ศ. ๒๔๕๘ เป็น พระใบฎีกา
พ.ศ. ๒๔๗๐ เป็น พระปลัด
พ.ศ. ๒๔๗๘ เป็น พระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูสังฆการบูรพทิศ
๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระอริยคุณธราจารย์ บริหารระยองเขตต์ สังฆปาโมกข์
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๔ เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชอริยคุณาธาร บุรพชลธีสมานคุณ วิบุลคณกิจสุนทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี [1]

ที่มา


1. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๗๘, ตอนที่ ๑๐๔ ง, ๑๕ ธันวาคม ๒๕๔, หน้า ๓
ทำเนียบอดีตพระราชาคณะภาคตะวันออก


แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com

www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่

พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook