|
VIEW : 832
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลหลวงพ่อสืบเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดไทร จนจบระดับชั้นประถม จึงเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเพิ่มวิทยา วัดบางแก้ว เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๙๒ เมื่อท่านเรียนจบในระดับชั้นมัธยมแล้วจึงเข้าสอบเข้าโรงเรียนพลตำรวจ เมื่อท่านสำเร็จการศึกษาท่านได้รับการเข้าบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจปฎิบัติงานที่ สถานีตำรวจลุมพินี จังหวัดกรุงเทพฯ รับข้าราชการตำรวจอยู่ ๓ ปี
อุปสมบท เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๗ (อายุ ๒๒ ปี) ณ วัท่าใน ตำบลท่าพระยา อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดยมี พระครูสิริวุฒาจารย์ (ห่วง สุวณฺโณ) วัดท่านัย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ปิ่น วัดศรีษะทอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการม้วน วัดไทร เปนพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "ทานรโต"
หลังจากอุปสมบทแล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดท่าในท่านได้ศึกษาธรรมและปฏิบัติรับใช้ หลวงพ่อห่วง ที่วัดท่าในได้ ๑ ปี ได้เรียนวิชาก้าวหน้าพอสมควร จิตใจเกิดรุ่มร้อน อยากจะลองวิชาที่เรียนมาว่าเป็นอย่างไรกันแน่ ร้อนอยู่ไม่ได้จึงตัดสินใจลาสิกขานึกถึงคำพูดของเพื่อนว่า "เป็นลูกผู้ชายต้องเป็นทหารกล้า"
ในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ หลังจากลาสิกขาที่วัดท่าใน ได้ไปสอบเข้าเรียนทหารที่โรงเรียนนายสืบทหารม้ายานเกราะรุ่นที่ ๕ และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นทหารม้ายานเกราะรุ่นเดียวกับ พ.ท.ทองสุข เก่งศิริ, พ.อ.นคร ธีระเนตร, พ.อ.ประสาน รักปทุม เมื่อท่านศึกษาจบจากโรงเรียนทหารม้ายานเกราะ ได้รับยศสิบโท ได้เข้าสังกัดกองพันทหารม้ายานเกราะจังหวัดสระบุรี
เมื่อครั้งหลวงพ่อสืบท่านรับราชการทหารได้ใช้ชีวิตลูกผู้ชายคุ้มค่าโลดโผนโจนทะยานจนเบื่อหน่ายเต็มที่ หันหน้ากลับท้องทุ่งท่าพญา อำเภอนครชัยศรี เพื่อไปพบหลวงพ่อม้วนซื่งในสมัยบวชครั้งแรกเป๋นพระคู่สวดในขณะนั้นซึ่งในเวลาต่อมาหลวงพ่อม้วนท่านได้รับตำแหน่งเป็น "พระครูอินทรสิริชัย" หลวงพ่อสืบ (ขณะเป็นฆราวาส) ได้ระบายความในใจว่าชีวิตฆราวาสมีแต่ทุกข์สับสนวุ่นวายกิเลสตัญหามากมายแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น มีแต่อิจฉารัษยาได้ไปทดลองท่องดินแดนฆราวาส มานานหลายปีรับรู้รสชาติหมดทุกอย่างจึงคิดว่ามิใช่หนทางแห่งการสิ้นทุกข์มีแต่ทุกข์เพิ่มขึ้นเหมือนอยู่ในวังวนแห่งกิเลสหลวงพ่อท่านจึงได้ขอคำปรึกษาต่างๆ และปรับทุกข์จาก พระครูอินทรสิริชัย (หลวงพ่อม้วน) แล้วจึงตัดสินใจออกบวชอีกครั้ง ครั้งนี้จะใช้วิตบรรพชิตจนชีวิตจะหาไม่ หลวงพ่อสืบท่านจึงตัดสินใจอุปสมบทเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้งและตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไม่สึกในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๑๔ โดยมี พระครูอินทสิริชัย (ม้วน อินฺทสุวณฺโณ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการง้อ ปญฺญาพโล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ทับทิม กตปุญฺโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "ปริมุตฺโต"
พ.ศ. ๒๕๑๕ สอบได้ นักธรรมชั้นตรี |
พ.ศ. ๒๕๑๖ สอบได้ นักธรรมชั้นโท |
พ.ศ. ๒๕๑๗ สอบได้ นักธรรมชั้นเอก |
พ.ศ. ๒๕๒๖ | เป็น เจ้าอาวาสวัดสิงห์ |
พ.ศ. ๒๕๓๔ | เป็น พระอุปัชฌาย์ |
พ.ศ. ๒๕๕๕ | เป็น ที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลท่าพระยา |
พ.ศ. ๒๕๒๘ | เป็น กรรมการตรวจประโยคนักธรรมสนามหลวง |
พระครูพิทักษ์วีรธรรม (สืบสันต์ ปริมุตฺโต) มรณภาพ อย่างสงบเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา ๗.๔๕ น. สิริอายุ ๘๔ ปี พรรษา ๔๕
พ.ศ. ๒๕๒๗ เป็น
พระสมุห์
|
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ เป็น
พระครูสัญญาบัตร
ที่ พระครูพิทักษ์วีรธรรม
|
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็น
พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นโท
ในราชทินนามเดิม
|
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook