|
VIEW : 2,840
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดนาทับ ได้ศึกษาหนังสือขอม ทั้งขอมไทยและขอมบาลีจนเชี่ยวชาญ ระหว่างที่เป็นสามเณรได้เกิดอาพาธจึงได้ลาสิกขาชั่วคราว เหตุผลเพราะยาโบราณต้องผสมสุรา เมื่อหายอาพาธ แล้วจึงได้กลับมาอุปสมบทในขณะที่มีอายุ ๒๒ ปี ได้นามฉายาครั้งแรกว่า “นนฺทิยมาโน”
ปี พ.ศ. ๒๔๖๒ ได้เดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ ณ วัดราชบพิธ สมเด็จพระสังฆราชทรงเปลี่ยนฉายานามให้ใหม่ว่า นนฺทิโย แล้วทรงฝากให้อยู่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมและบาลีแต่เพียงเพื่อหาความรู้ มิได้เข้าสอบ ณ ท้องสนามหลวง ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๖๔ ได้เดินทางกลับมาจำพรรษาอยู่ ณ วัดมุจลินทวาปีวิหาร
พ.ศ. ๒๔๗๖ | เป็น เจ้าคณะหมวดตุยง |
พ.ศ. ๒๔๗๗ | เป็น ผู้ช่วยเจ้าคณะแขวงตุยง |
พ.ศ. ๒๔๗๙ | เป็น รักษาการเจ้าคณะแขวงหนองจิก |
พ.ศ. ๒๔๘๑ | เป็น เจ้าคณะแขวงเมืองปัตตานี |
พ.ศ. ๒๔๙๑ | เป็น พระอุปัชฌาย์ ประเภทวิสามัญ |
พ.ศ. ๒๔๙๕ | เป็น ผู้รักษาการสาธารณูปการจังหวัดปัตตานี |
พ.ศ. ๒๕๑๕ | เป็น เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี |
พ.ศ. ๒๕๒๒ | เป็น เจ้าอาวาสวัดมุจลินทวาปีวิหาร |
พระราชพุทธิรังษี (ดำ นนฺทิโย) มรณภาพ เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ เวลา ๒๓.๑๐ น. สิริรวมอายุได้ ๘๙ ปี พรรษา ๖๘
พ.ศ. ๒๔๖๔ เป็น
พระใบฎีกา
|
พ.ศ. ๒๔๖๙ เป็น
พระปลัด
|
พ.ศ. ๒๔๘๒ เป็น
พระครูสัญญาบัตร
ที่ พระครูมานิตสมณวัตร
|
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ เป็น
พระราชาคณะชั้นสามัญ
ที่ พระมุจลินทโมลี
|
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็น
พระราชาคณะชั้นราช
ที่ พระราชพุทธิรังษี โมลีธรรมพินิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
[1]
|
1. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๙๐, ตอนที่ ๑๗๗ ง, ๒๘ ธันวาคม ๒๕๑๖, หน้า ๓ |
ทำเนียบอดีตพระราชาคณะภาคใต้ |
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook