|
VIEW : 1,093
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลบรรพชาอยู่ที่วัดศรีโพธิชัยในเมืองนั้น พ.ศ. ๒๔๓๒ ลงมากรุงเทพ สึกเป็นศิษย์วัดอยู่ที่วัดโสมนัสวิหาร ประมาณ ๓ เดือนเศษ
บรรพชา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อ ร.ศ. ๑๑๐ (พ.ศ. ๒๔๓๔) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิส สยามมกุฎราชกุมาร ทรงบรรพชาก็ได้เฝ้าถวายตัว และได้ตามเสด็จไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ ครั้งหนึ่งฯ และศกนั้นเอง สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส เมื่อยังทรงดำรงพระยศเป็น พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิญาณวโรรส เสด็จประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร จึงได้เรียนบาลีไวยากรณ์และคัมภีร์ธรรมบท และพระวินัยปิฎก ในสำนักของพระองค์ท่าน
อุปสมบทเป็นภิกษุ เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๑๑ (พ.ศ. ๒๔๓๕) อายุได้ ๒๑ ปี
วันที่ ๓ ธันวาคม ร.ศ. ๑๑๓ สอบไล่ได้ชั้นเปรียญตรี ซึ่งเทียบกับ ๔ ประโยค และได้รางวัลที่ ๑ ในชั้นนี้ด้วย (นาฬิกาพกตราสมอ ๑ เรือน เงิน ๔๐ บาท) ฯ และใน ร.ศ. ๑๑๓ นั้นเอง ได้รับที่ฐานานุกรมเป็นพระครูปริตโกศล มีนิตยภัตต์เดือนละ ๖ บาท และได้เป็นนายกของภิกษุสามเณรบวชใหม่ มีหน้าที่แนะนำธรรมวินัยด้วย พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ได้ประทานพระรูปใหญ่ของพระองค์ ๑ รูป ให้เป็นรางวัลในการแนะนำดี เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาส จอมบึง เมืองราชบุรี ก็ได้ตามเสด็จด้วย ถึงวันที่ ๓ ธันวาคม ร.ศ. ๑๑๕ (พ.ศ. ๒๔๓๙) เข้าสอบไล่ได้ชั้นเปรียญเอก ซึ่งเทียบกับ ๗ ประโยค(อย่างเก่า) อันนับว่าเป็นชั้นที่สูงสุดของวิทยาลัยและได้รับรางวัลที่ ๑ ในชั้นนี้ด้วย
ร.ศ. ๑๑๕ (พ.ศ. ๒๔๓๙) ได้เป็นครูเอกในโรงเรียนมหามกุฎราชวิทยาลัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรในโรงเรียน ได้สอนนักเรียนโดยวิธีบาลีภาษา ถวายตัวครั้งหนึ่ง เมื่อ ร.ศ. ๑๑๖ (พ.ศ. ๒๔๔๐) สมเด็จพระบรมราชินีนารถ เสด็จทอดพระเนตรในโรงเรียน ก็ได้สอนนักเรียนถวายตัว และเมื่อ ปรินส์เคา ออฟตุริน เจ้าต่างประเทศ (กรุงอิตาลี) เสด็จเข้ามากรุงเทพฯ และได้เสด็จทอดพระเนตรในโรงเรียน ก็ได้สอนนักเรียนถวายตัวอีกครั้งหนึ่ง ครั้นวันที่ ๕ มิถุนายน ร.ศ. ๑๒๑ (พ.ศ. ๒๔๔๕) ได้ลาสิกขาบท
วันที่ ๘ มิถุนายน ร.ศ. ๑๒๑ พระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ ปลัดทูลฉลองกระทรวงธรรมการ ได้นำเข้าเฝ้าถวายตัว ทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียนที่หน้าพระที่นั่งวิมานเมฆ พระราชวังสวนดุสิต ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เข้ารับราชการในกรมราชบัณฑิต ซึ่งรวมอยู่ในกรมแต่งตำรา กรมศึกษาธิการ วันที่ ๑๒ มิถุนายน ร.ศ. ๑๒๑ เป็นวันแรกเข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ช่วยแต่งตำราเรียน ได้รับพระราชทานเงินเดือน เดือนละ ๔๐ บาท วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๒ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น หลวงญาณวิจิตร นายด้านกรมราชบัณฑิตซ้าย ถือศักดินา ๔๐๐ มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยแต่งตำราเรียนตลอดมา ในระหว่างที่รับราชการในตำแหน่งนี้ ก็ได้ช่วยตรวจแก้ใช้ตำราเรียน ซึ่งได้จัดพิมพ์ขึ้นใหม่เสมอและได้ช่วยเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี เมื่อครั้งเป็นพระไพศาลศิลปศาสตร แต่งธรรมจริยา ๖ หนึ่งเล่ม ได้แต่งวิธีสอนเบญจศีลเบญจธรรม ๑ เล่ม
ร.ศ. ๑๓๐ (พ.ศ.๒๔๕๔) ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นปลัดกรมราชบัณฑิต วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ พระราชทานเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นพระยาวิจิตรธรรมปริวัตร
พ.ศ. ๒๔๖๖ ได้รับพระราชทานตำแหน่งเป็นเจ้ากรมราชบัณฑิต วันที่ ๒๐-๒๓-๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘ ได้บูชาอัฐทิศในทิศทักษิณในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปกพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าที่ราชบัณฑิตย้ายไปขึ้นราชบัณฑิตยสภา ซึ่งโปรดเกล้าฯ ตั้งขึ้นใหม่
ต่อมายังคงรับราชการจนถึง พ.ศ. ๒๔๗๒ จึงออกจากประจำการรับพระราชทานเบี้ยบำนาญ
พ.ศ. ๒๔๗๗ ป่วยเป็นโรคลำไส้พิการ แพทย์ได้จัดการรักษาจนสุดความสามารถ โรคมีทรงกับทรุด ถึงวันที่ ๕ มกราคม ถึงแก่กรรมด้วยอาการอันสงบ เวลา ๒๑ นาฬิกา ๑๕ นาที รวมอายุ ๖๓ ปี
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร |
ร.ศ. ๑๑๓ (ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๓๗) เป็น
พระครูปริตโกศล
|
๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๑ เป็น
พระราชาคณะ
ที่ พระสาสนดิลก
|
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook