พระสุพรหมยานเถร วิ. (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) | พระสังฆาธิการ

พระสุพรหมยานเถร วิ. (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก)


 
เกิด ๓๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๑
อายุ ๘๖ ปี
อุปสมบท ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๑
พรรษา ๖๖
มรณภาพ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๗
วัด วัดพระพุทธบาทตากผ้า
ท้องที่ ลำพูน
สังกัด มหานิกาย


VIEW : 1,427

เพิ่ม/แก้ไขข้อมูล

สถานะเดิม


     พระสุพรหมยานเถร วิ. มีนามเดิมว่า พรหมา พิมสาร เกิดเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๑ ณ บ้านป่าแพ่ง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นบุตรของพ่อเป็ง และแม่บัวถา


การศึกษา

     ในขณะเยาว์วัยครูบาพรหมาได้รับการศึกษาอักษรล้านนาและไทยกลางที่บ้านจากพี่ชายที่ได้บวชเรียนแล้วสึกออกไป เมื่อท่านได้บรรพชาแล้วจึงได้ท่องจำบทสวดมนต์ และเข้าโรงเรียนประชาบาลจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เมื่ออุปสมบทแล้วจึงได้ศึกษานักธรรมด้วยตนเอง ในปี พ.ศ. ๒๔๖๒ ทางการคณะสงฆ์ได้จัดสอบนักธรรมสนามหลวงขึ้น ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยพระมหานายกเป็นผู้นำข้อสอบมาสอบยังวัดพระเชตุพน ในครั้งนั้นมีพระภิกษุเข้าสอบจำนวน ๑๐๐ รูป ผลการสอบปรากฏว่ามีพระภิกษุที่สอบผ่านจำนวน ๒ รูป คือ ครูบาพรหมา และพระทองคำ วัดเชตุพน จังหวัดเชียงใหม่ นับว่าครูบาพรหมาเป็นพระรูปแรกของจังหวัดลำพูนที่สอบนักธรรมได้

     ภายหลังจากสอบนักธรรมได้แล้ว ท่านได้พยายามหาความรู้ด้านการปฏิบัตธรรมจากครูบาอาจารย์หลายรูป อาทิ พระครูพิทักษ์พลธรรม (ครูบาหวัน มหาวโน) พระสุธรรมยานเถร (ครูบาอินทรจักรรักษา) ผู้เป็นพระพี่ชาย ครูบาแสน ญาณวุฑฒิ วัดหนองเงือก ครูบาบุญมา ปารมี วัดกอม่วง เป็นต้น


บรรพชาและอุปสมบท

     บรรพชา เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๕ ขณะอายุได้ ๑๕ ปี ณ วัดป่าเหียง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน โดยมีครูบาแก้ว ขัตติโย (ครูบาขัตติยะ) เป็นพระอุปัชฌาย์

     อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ณ พัทธสีมาวัดป่าเหียง โดยมี ครูบาขัตติยะ เป็นพระอุปัชฌาย์


ออกธุดงค์

     เมื่อครูบาพรหมาอายุได้ ๒๔ ปี บวชได้ ๔ พรรษา ท่านได้ออกธุดงค์ โดยครั้งแรกไปจำพรรษา ณ ดอยน้อย อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากนั้นท่านได้ธุดงค์ไปในสถานที่ด่างๆ ทั่วภาคเหนือ และประเทศพม่า และได้จำพรรษาในเขตพม่าเป็นเวาถึง ๕ ปี ท่านได้จาริกธุดงค์ถึง ๒๐ พรรษา โดยถือธุดงควัตร อยู่ป่าเป็นวัตร ออกบิณฑบาตเป็นกิจวัตร ฉันภัตตาหารมื้อเดียว นุ่งห่มผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ท่านเพียรพยายามอดทนด้วยวัตรปฏิบัติอันเคร่งครัดที่สุด

     ภายหลังจากธุดงค์เป็นเวลานาน ท่านจึงได้กลับมาจำพรรษาที่วัดหนองเจดีย์ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นเวลา ๔ พรรษา หลังจากนั้นได้มาจำพรรษา ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า ๑ พรรษา อยู่วัดม่อนมะหิน ๒ พรรษา ก่อนจะย้ายกลับไปจำพรรษาอยู่วัดป่าหนองเจดีย์อีก ๒ พรรษา ถึงแม้ว่าในช่วงปัจฉิมวัยครูบาพรหมาจะได้จำพรรษาเป็นประจำ ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้าแล้ว แต่ท่านก็ยังไม่ทิ้งธุดงควัตร หากโอกาสเหมาะท่านก็จะพาพระเณรออกธุดงค์เป็นประจำ


บูรณะวัดพระพุทธบาทตากผ้า

     ในปี พ.ศ. ๒๔๙๑ ครูบาพรหมาได้กลับมาจำพรรษา ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า และได้จำพรรษาอยู่วัดนี้เรื่อยมาจนมรณภาพ ท่านได้เป็นประธานอำนวยการบูรณะวัดพระพุทธบาทตากผ้า เช่น ต่อเติมยอดมณฑปวิหารครอบรอยพระพุทธบาทที่ครูบาศรีวิชัยได้มาบูรณะไว้ สร้างพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ ศาลาพระปริยัติธรรม นอกจากนี้ท่านยังได้สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม “พรหมจักรสังวรกิตติขจรประชาสรรค์” และเป็นประธานในการบูรณะวัดพระนอนม่อนช้าง วัดป่าหนองเจดีย์ วัดม่อนมะหิน วัดบ้านหวาย และวัดช้างค้ำ เป็นต้น


หนังสือธรรมะ

     ครูบาพรหมาได้เผยแพร่ธรรมะ แสดงพระธรรมเทศนา และเขียนหนังสือธรรม และสุภาษิตคำสอนหลายเล่ม อาทิ หนังสือคำถามคำตอบ เรื่องหนานตั๋นกับหนานปัญญา หนังสือสุภาษิตคำสอน หนังสือทน ศีล ภาวนา หนังสือคำถามคำตอบ เรื่องศีล สมาธิ ปัญญา หนังสืออภิณหปัจเวกขณ์ หนังสือเขมสรณาคมน์ เป็นต้น

ตำแหน่ง

ฝ่ายปกครอง

พ.ศ. ๒๕๐๒  เป็น เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทตากผ้า
พ.ศ. ๒๕๐๕  เป็น พระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๒๒  เป็น เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทตากผ้า พระอารามหลวง

มรณภาพ


     ครูบาพรหมาได้บำเพ็ญสมณธรรมจนย่างเข้าสู่วัยชรา และได้เกิดอาการอาพาธ เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนที่ท่านจะละสังขาร ท่านได้ตื่นจากการจำวัดแต่เช้า และปฏิบัติธรรมตามกิจวัตร เมื่อถึงเวลาท่านลุกนั่งสมาธิ และได้ดับขันธ์ (มรณภาพ) ในท่านั่งสมาธิภาวนาในวันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา ๓ ปี ก่อนจะได้รับพระราชทานเพลิงศพในวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๑ ภายหลังจากพระราชทานเพลิงศพแล้ว อัฐิของท่านได้แปรเป็นพระธาตุมีวรรณะสีต่างๆ ซึ่งสร้างความปิติโสมนัสแก่บรรดาศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง

สมณศักดิ์


พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นโท ที่ พระครูพรหมจักรสังวร ฝ่ายอรัญวาสี
พ.ศ. ๒๕๑๐ เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ วิปัสสนาธุระ ที่ พระสุพรหมยานเถร [1]

ที่มา


1. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๙๔, ตอนที่ ๓ ง, ๖ มกราคม ๒๕๒๐, หน้า ๗
ทำเนียบอดีตพระราชาคณะภาคเหนือ
wikipedia.org


แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com

www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่

พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook