|
VIEW : 1,008
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลครูบาอินทจักรได้ขออนุญาตมารดาบิดาบวชเป็นเณร บิดาจึงพาท่านมาฝากเป็นศิษย์พระอธิการแก้ว ขตฺติโย เจ้าอาวาสวัดป่าเหียง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
และได้บรรพชาเป็นสามเณรในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๔๔๕ เมื่อบวชแล้วก็ได้ศึกษาพระธรรมทั้งฝ่ายปริยัติและปฏิบัติกับพระอุปัชฌาย์ จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี และเรียนสายสามัญจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ ณ วัดป่าเหียง โดยมี พระอุปัชฌาย์รูปเดิม พระฮอม โพธาโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสม สุรินฺโท เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาทางธรรมว่า อินฺทจกฺโก
หลังบวชท่านยังคงช่วยสอนพระธรรมในวัด จนกระทั่งเห็นว่าควรปฏิบัติธรรมเพื่อมุ่งความหลุดพ้น จึงกราบลาพระอุปัชฌาย์ออกธุดงค์โดยมีครูบาพรหมา น้องชาย ติดตามไปด้วย
ครูบาอินทจักรได้จาริกไปทั่วจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าประเทศพม่า แล้วกลับเข้าประเทศไทยทางจังหวัดเชียงราย แล้ววกกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดการธุดงค์ท่านได้รับความลำบากต่าง ๆ ทั้งจากสภาพอากาศ สภาพภูมิประเทศ และอาหารอัตคัด แต่ท่านก็อดทนจนผ่านมาได้ ท่านธุดงค์อยู่นานถึง ๑๖ ปี จึงอยู่จำพรรษาที่วัดน้ำบ่อหลวง ตามคำอาราธนาของขุนอนุพลนคร
ท่านเข้าอยู่วัดน้ำบ่อหลวงตั้งแต่วันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ นับแต่นั้นท่านได้พัฒนาวัดหลายประการ ทั้งก่อสร้างเสนาสนะ ถนน และแหล่งน้ำใช้เพื่อความสะดวกของแก่ผู้มาวัด
เมื่อวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหารเปิดสอนวิปัสสนากรรมฐานแบบสติปัฏฐาน ๔ (ยุบหนอ-พองหนอ) ท่านได้ลงไปศึกษาด้วย โดยมีพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) เป็นผู้สอน เมื่อกลับมาวัดน้ำบ่อหลวง ท่านก็ได้นำวิธีการเจริญวิปัสสนานั้นมาเผยแผ่แก่ประชาชน วัดน้ำบ่อหลวงจึงเป็นสำนักวิปัสสนากรรมฐานมานับแต่นั้น
เจ้าอาวาสวัดน้ำบ่อหลวง |
วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ ครูบาอินทจักรถูกส่งเข้าโรงพยาบาลแมคคอร์มิคกระทันหันเพราะอาการกระดูกสันหลังอักเสบ ถึงวันที่ ๒๓ มกราคม ปีถัดมาอาการทรุดหนักลงอีก จนแพทย์วินิจฉัยว่าท่านจะมรณภาพราวตี ๒ แต่พอถึงรุ่งเช้าของวันที่ ๒๔ มกราคมท่านกลับทุเลาลงจนหายอาพาธในเดือนกุมภาพันธ์ จึงกลับวัดและปฏิบัติศาสนกิจดังเดิม
หลังจากได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ท่านกลับอาพาธอีก และถึงแก่มรณภาพ ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๑ เวลา ๒๒.๒๐ น. สิริอายุได้ ๘๑ ปี ๗๖ วัน พรรษา ๖๒ ได้รับพระราชทานเพลิงเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพลอากาศเอกหะริน หงสกุล เป็นประธานฝ่ายฆราวาสผู้อัญเชิญเพลิงพระราชทาน
พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็น
พระครูประทวนสมณศักดิ์
|
พ.ศ. ๒๔๙๘ เป็น
พระครูสัญญาบัตรชั้นโท
ที่ พระครูวนาภิราม
|
พ.ศ. ๒๕๑๒ เป็น
พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก
ที่ พระครูภาวนาภิรัต
|
พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็น
พระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ
ในราชทินนามเดิม
|
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็น
พระราชาคณะชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
ที่ พระสุธรรมยานเถร
[1]
|
1. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๙๕, ตอนที่ ๓๔ ง, ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๑, หน้า ๕ |
ทำเนียบอดีตพระราชาคณะภาคเหนือ |
เพจ พัดยศ สมณศักดิ์พระสงฆ์ไทย |
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook