|
VIEW : 1,266
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลครูบาอินทจักรได้ขออนุญาตมารดาบิดาบวชเป็นเณร บิดาจึงพาท่านมาฝากเป็นศิษย์พระอธิการแก้ว ขตฺติโย เจ้าอาวาสวัดป่าเหียง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
และได้บรรพชาเป็นสามเณรในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๔๔๕ เมื่อบวชแล้วก็ได้ศึกษาพระธรรมทั้งฝ่ายปริยัติและปฏิบัติกับพระอุปัชฌาย์ จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี และเรียนสายสามัญจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ ณ วัดป่าเหียง โดยมี พระอุปัชฌาย์รูปเดิม พระฮอม โพธาโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสม สุรินฺโท เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาทางธรรมว่า อินฺทจกฺโก
หลังบวชท่านยังคงช่วยสอนพระธรรมในวัด จนกระทั่งเห็นว่าควรปฏิบัติธรรมเพื่อมุ่งความหลุดพ้น จึงกราบลาพระอุปัชฌาย์ออกธุดงค์โดยมีครูบาพรหมา น้องชาย ติดตามไปด้วย
ครูบาอินทจักรได้จาริกไปทั่วจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าประเทศพม่า แล้วกลับเข้าประเทศไทยทางจังหวัดเชียงราย แล้ววกกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดการธุดงค์ท่านได้รับความลำบากต่าง ๆ ทั้งจากสภาพอากาศ สภาพภูมิประเทศ และอาหารอัตคัด แต่ท่านก็อดทนจนผ่านมาได้ ท่านธุดงค์อยู่นานถึง ๑๖ ปี จึงอยู่จำพรรษาที่วัดน้ำบ่อหลวง ตามคำอาราธนาของขุนอนุพลนคร
ท่านเข้าอยู่วัดน้ำบ่อหลวงตั้งแต่วันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ นับแต่นั้นท่านได้พัฒนาวัดหลายประการ ทั้งก่อสร้างเสนาสนะ ถนน และแหล่งน้ำใช้เพื่อความสะดวกของแก่ผู้มาวัด
เมื่อวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหารเปิดสอนวิปัสสนากรรมฐานแบบสติปัฏฐาน ๔ (ยุบหนอ-พองหนอ) ท่านได้ลงไปศึกษาด้วย โดยมีพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) เป็นผู้สอน เมื่อกลับมาวัดน้ำบ่อหลวง ท่านก็ได้นำวิธีการเจริญวิปัสสนานั้นมาเผยแผ่แก่ประชาชน วัดน้ำบ่อหลวงจึงเป็นสำนักวิปัสสนากรรมฐานมานับแต่นั้น
| เจ้าอาวาสวัดน้ำบ่อหลวง |
วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ ครูบาอินทจักรถูกส่งเข้าโรงพยาบาลแมคคอร์มิคกระทันหันเพราะอาการกระดูกสันหลังอักเสบ ถึงวันที่ ๒๓ มกราคม ปีถัดมาอาการทรุดหนักลงอีก จนแพทย์วินิจฉัยว่าท่านจะมรณภาพราวตี ๒ แต่พอถึงรุ่งเช้าของวันที่ ๒๔ มกราคมท่านกลับทุเลาลงจนหายอาพาธในเดือนกุมภาพันธ์ จึงกลับวัดและปฏิบัติศาสนกิจดังเดิม
หลังจากได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ท่านกลับอาพาธอีก และถึงแก่มรณภาพ ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๑ เวลา ๒๒.๒๐ น. สิริอายุได้ ๘๑ ปี ๗๖ วัน พรรษา ๖๒ ได้รับพระราชทานเพลิงเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพลอากาศเอกหะริน หงสกุล เป็นประธานฝ่ายฆราวาสผู้อัญเชิญเพลิงพระราชทาน
|
พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็น
พระครูประทวนสมณศักดิ์
|
|
พ.ศ. ๒๔๙๘ เป็น
พระครูสัญญาบัตรชั้นโท
ที่ พระครูวนาภิราม
|
|
พ.ศ. ๒๕๑๒ เป็น
พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก
ที่ พระครูภาวนาภิรัต
|
|
พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็น
พระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ
ในราชทินนามเดิม
|
|
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็น
พระราชาคณะชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
ที่ พระสุธรรมยานเถร
[1]
|
| 1. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๙๕, ตอนที่ ๓๔ ง, ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๑, หน้า ๕ |
| ทำเนียบอดีตพระราชาคณะภาคเหนือ |
| เพจ พัดยศ สมณศักดิ์พระสงฆ์ไทย |
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook